RSS

วิญญาณมาขอบใจเพื่อน

… ยามอัฏฐกาล …

… ตอน วิญญาณมาขอบใจเพื่อน …

… คืนวันจันทร์  ยามที่ ๑ …

… เวลา  ๑๘.๐๐ น.ถึง ๑๙.๓๐ น.

… เรื่องราวโดยย่อ …

… เมื่อค่ำคืนของวันที่ ๑๗ มิ.ย.๒๕๖๒ … [ วันจันทร์ ] … ที่ผ่านมานี้ … ผมกำลังขมักเขม้นกับบทความที่กำลังจะลงในเว็บไซต์ … แม่บ้านผมเดินผ่านมาและเล่าความฝันให้ฟังว่า … เมื่อคืนฝันถึงเพื่อน [ เพื่อนนักเรียนที่พึ่งเสียชีวิต เมื่อวันที่ ๓๑ พ.ค. ๒๕๖๒ มานี่เอง ] … ในความฝัน … เพื่อนมาขอบใจ ที่ตัวเธอเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการเรี่ยไร เงินทำบุญจากเพื่อนๆที่ไม่สามารถไปในงานศพได้ … ทำให้งานศพลุล่วงไปด้วยดีสมตามความปารถนาทุกประการ … ในฝันวิญญาณเพื่อนเธอไม่ได้พูดด้วยวาจากับเธอ แต่พูดทางมโน … จากจิต สู่จิต นั่นเอง …

… พอเล่าเสร็จเธอก็ถามผมมาว่า … ฝันแบบนี้แปลว่าอะไรค่ะพ่อ ? …
… ผมก็เหลือบดูเวลาในขณะนั้นในทันที ตกเวลา ๑๙.๒๒ น. ยามที่ ๑ ยาม 2/1 … ยาม ๒ …

 

 

 

… ลัคนายามตกราศีเมษ ยามที่ ๑ ตกยาม ๒ … ดาว ๒ อยู่ราศีพฤศจิกเป็นเรือนมรณะ – การตาย … ส่วนเวลา ๑๙.๒๒ น.ก็ตกเรือนมรณะเหมือนกัน … แสดงว่าเกี่ยวกับความตาย – คนตาย … ๒ อยู่ เรือน ๓ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีมังกรเรือนกัมมะ – ภาระกิจ – กิจกรรม …

… อ่านว่า …
1.ตนุ + กัมมะ + มรณะ = เจ้าชาตามีกิจกรรมกับคนตาย …
… [ กัมมะ – งาน + มรณะ – การตาย = ไปงานศพ ] …

… ดาว ๓ เล็งไปที่ ดาว ๔ สหัชชะ – เพื่อน + อริ – โรคภัย …
[ ๓ อยู่เรือน ๗ … ๗ อยู่เรือนราหู … ๘ อยู่ราศีมีน ก็ตรีโกณ ๔ จนได้ ]
ดาว ๔ อยู่ราศีกรกฏ เรือนพันธุ – เดินทาง … เจ้าเรือนคือดาว ๒ วิ่งไปเป็นนิจจ์ – น่าสงสาร ที่เรือนมรณะ ราศีพฤศจิก …

… อ่านว่า …
2. เพื่อนผู้น่าสงสารได้เดินทางไปสู่ปรโลกเพราะมีโรคร้ายมาคร่าชีวิตไป … [ พันธุ + มรณะ = เดินทาง + ปรโลก = เดินทางไปสู่ปรโลก ] …

… ดาว ๔ เพื่อนตรีโกณกับ ๘ ลาภะ – คนสนิท = เพื่อนสนิท …
… ๘ ทำมุม 4 กับ ดาว ๑ เจ้าเรือนปุตตะ – เด็ก …

… อ่านว่า …
3. เพื่อนนักเรียนที่สนิทกันตั้งแต่เด็ก …
[ ๔ เพื่อนอยู่เรือนพันธุ – การเรียน = เพื่อนนักเรียน ] …
… [ ดาว ๑ – ปุตตะ + สหัชชะ – เพื่อน + พันธุ … ปุตตะ + พันธุ = โรงเรียน ] …

… 1 + 2 + 3  แปลรวมว่า … เจ้าชาตามีกิจกรรมกับคนตายที่น่าสงสาร ซึ่งเป็นเพื่อนนักเรียนที่สนิทกันตั้งแต่เด็กได้เดินทางไปสู่ปรโลกเพราะมีโรคร้ายมาคร่าชีวิตไป …

… กิจกรรมของเจ้าชาตาคืออะไรละ? …

… อ่านจาก ๓ อุจจ์ [ เต็มที่ ] …ได้ว่า ตนุ – เจ้าชาตาเต็มที่ + กัมมะ  ดาว ๗ ไปอยู่ราศีกุมภ์ อ่านว่า … ตนุ + กัมมะ – กิจกรรม + ลาภะ – เรี่ยไร … อ่านว่า … เจ้าชาตาทุ่มเทการเรี่ยไรอย่างเต็มที่ …

… ตรีโกณกับ ๖ กฎุมภะ – เงิน + ปัตนิ – ร่วมกัน อ่านว่า … เงินร่วมกัน … กุม ดาว ๕ ศุภะ – ทำบุญ + วินาสน์ – ผู้ที่จากไป …
๘ ลาภะ ไปอยู่ราศีมีน อ่านว่า … ลาภะ + วินาสน์ – การสูญเสีย …
… แปลว่า … เจ้าชาตาเรี่ยไร เงินร่วมกันทำบุญให้กับผู้ที่จากไปอย่างเต็มพิกัด … [ อุจจ์ = เต็มที่ ,เต็มพิกัด ,สุดตัว ,ทุ่มเท ] …

… ที่ว่าวิญญาณมาขอบใจ …

… ตั้งดาว ๔ ที่ราศีกรกฏเป็นลัคนาเพื่อน ดาว ๒ ตนุลัคน์ไปอยู่ราศีพฤศจิกเรือนปุตตะ – ยินดี + กัมมะ – ผลงาน …
… ผลงานของใคร ? … เรามาอ่านต่อดาว ๓ กัมมะ + ปุตตะ ไปอยู่ราศีมังกร =  ก็คือเจ้าชาตานั่นเอง …
… ปุตตะ + กัมมะ = ยินดีในผลงาน = ขอบคุณ …

… อันที่จริงถ้าตั้งราศีมังกรที่ ๓ อุจจ์ สถิตอยู่เป็นลัคนาก็สามารถแปลได้ละเอียดขึ้นได้อีก 1 ขั้น …
… แต่ผมว่าเท่านี้น่าจะพอกันก่อนดีกว่านะครับ …

 

 

 

… สุดท้าย … วันนี้มีคำศัพท์ผสมใหม่ๆที่น่าใช้อยู่หลายคำเช่น …
… กัมมะ + มรณะ = งานศพ ,เป็นธุระให้ผู้ตาย
… พันธุ  + มรณะ = เดินทางไปสู่ปรโลก , ไปสู่ที่สุคติ
… สหัชชะ + ปุตตะ + พันธุ = เพื่อนที่โรงเรียน , เพื่อนนักเรียน
… พันธุ + ปุตตะ = สถานที่ + การศึกษา = โรงเรียน
… ปุตตะ + กัมมะ = ยินดีในผลงาน = ขอบคุณ …

… สวัสดีครับ …

… อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม …

 

 

 

 

 

 

ความหมายของเรือนอริลัคน์ที่แท้จริง

อริลัคน์

 

… ความหมายหลักทั่วๆไปของเรือนอริลัคน์ …

… หมายถึง ศัตรู  โรคภัย  อุปสรรค  สิ่งกีดขวาง  อุบัติเหตุ  การพิพาท  ปัญหายุ่งยาก  หนี้สิน  ความทุกข์ยาก  ความโกรธ  การขัดใจ  การแบกภาระ  การติดขัด  ความไม่สะดวก   การคัดค้าน  ความดื้อดึง  การลงทุน  ข่มขู่  รังแก  ทำร้ายร่างกายหรือจิตใจ การลงทุน เมียน้อย  เพื่อนบ้าน  ทุกข์ทางกาย ฯลฯ

… ในปัจจุบัน สามารถหมายถึง …

… การซ่อมแซม  การแก้ไขปัญหาต่างๆ  การดัดแปลง  การพลิกแพลง

รายจ่าย  การแข่งขัน  การต่อสู้  ความอดทนและบากบั่น  ความจน  เขม่นหน้ากัน  ไม้เบื่อไม้เมา  เจ้ากรรมนายเวร  เจ้าหนี้  ความจำเป็น  การปรับปรุง  การฟื้นฟูบำบัดรักษา  อาภัพอับปาง  ธุรกิจส่วนตัว ฯลฯ

… เรือนอริมีน้ำหนักเน้นไปในทางฟื้นฟู ซ่อมแซม  บำรุงรักษา แก้ไข  ต่อสู้  แข่งขัน …

…  ตนุ + อริ  ก็แปลว่า …

๑. เจ้าชาตาเป็นหมอที่รักษาโรคภัยให้กับผู้ป่วย

๒. เจ้าชาตาเป็นทนายความที่ต้องแก้คดีให้กับลูกความ

๓. เจ้าชาตาเป็นทหารที่ต้องต่อสู้เพื่อประเทศชาติของตน

๔. เจ้าชาตาเป็นนักกีฬาที่ต้องแข่งขันเพื่อชัยชนะแห่งตน

๕. เจ้าชาตาเป็นหมอดูที่ต้องแก้ทุกข์ยากให้แก่ปวงชน

… คนส่วนมากพอเห็นดวงชาตาอ่านว่า … กัมมะ + อริ … วินาสน์ + ลาภะ … ตนุ + มรณะ + ลาภะ … ก็ส่ายหน้าแล้วร้องว่า … ตายแน่ ! … ทำไงดีละ ? … ผมจะให้ดูดวง ๆ นึง … ลัคนาอยู่ราศีเมษพอดี …

ดวงตัวอย่าง

… ชาย … เกิดวันที่ ๑๖ ก.พ.๒๔๙๔

… เวลา … ๑๐.๓๕ น.

… วันศุกร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำเดือน ๓ ปีเถาะ

… ชายผู้นี้มีตำแหน่งเป็นเจ้าสัวคนหนึ่งในวงการของเขา …

… วันนี้เรามาดูกันว่า … ทำใมเขาจึงร่ำรวยหลังจากชีวิตที่เคยอับปางมาแล้ว …

… จาก ๗ กัมมะมาอยู่กันย์ อ่านว่า … กัมมะ + อริ – งานมีปัญหา …

… จาก ๔ อริมาอยู่มังกร อ่านว่า … อริ + กัมมะ – ปัญหาจากงาน …

… จาก ๓ มรณะมาอยู่กุมภ์ อ่านว่า … มรณะ + ลาภะ – ความเสียหายที่เกิดจากรายได้ …

… จาก ๕ วินาสน์มาอยู่กุมภ์ อ่านว่า … วินาสน์ + ลาภะ – ลาภหาย …

ความล้มเหลวจากรายได้ …

… ทั้งหมดที่อ่านๆ และแปลๆ กันมา … ดูท่าไม่น่าจะรวยได้เลย …

… เรามาดูกัน …

… จาก ๓ ตนุมาอยู่กุมภ์ อ่านว่า … ตนุ + ลาภะ เป็นเกษตร …

… แปลว่า เจ้าชาตามีความสำเร็จอย่างแน่นอน …

… เท่าที่สังเกตุมา ดวงชาตาทุกลัคนา ถ้า ตนุ + ลาภะเป็นเกษตร รับรองรวยทุกท่าน แต่มีข้อแม้ ว่าเรือนลาภะที่เป็นเกษตรนั้นต้องมี

ดาวอยู่ 4-5 ดวงถึงจะตรงตามสูตร …

… เห็นมั๊ยว่าจากตนุลัคน์จุดเดียวก็ร่ำรวยได้แล้ว …

… เราย้อนมาดูความดีเด่นของดวงชาตากันดีกว่า …

… ดวงนี้มีดาวโยคหน้า – โยคหลังครบครัน … ราศีเมษเป็นกลุ่มอยู่ในพวก ปัสวะเกณฑ์

… ลัคนาอยู่ในราศีปัศวะเกณฑ์ คือราศีเมษ พฤษภ สิงห์ และมีดาว อาทิตย์ จันทร์ อังคาร ศุกร์ อยู่ในภพอริ หรือภพกัมมะ … ได้อุดมเกณฑ์ …

… ดังในภาพต่อไปนี้ …

 

300.เมษ

… แต่อุดมเกณฑ์สมัยนี้ครูโหรท่านว่า … ไม่ต้องจำกัดดาวก็ได้อุดมเกณฑ์ ดวงนี้ เรือนที่ ๖ กับเรือนที่ ๑๐ มีดาว ๔ + ๗ อยู่ … สรุปว่าได้อุดมเกณฑ์ไปเลย … นอกจากนี้มีดาวอยู่เรือนที่ ๑๐ ยังได้องค์เกณฑ์อีก … 2 เด้งละทีนี้ … ยังมี ดาว ๗ กัมมะ ยังสลับเรือนกับ ดาว ๔ อริ ได้เกษตรเทียมอีก … แบบนี่เขาเรียกว่า เฮงซ้ำซ้อน …

… เรามาพูดกันต่อในเรื่อง …

… มรณะ + ลาภะ – ความเสียหายที่เกิดจากรายได้ …

… วินาสน์ + ลาภะ – ลาภหาย … ความล้มเหลวจากรายได้ …

… ดวงชาตานี้ลาภะเป็นเกษตร คุ้มภัยแน่นอน … อ่านใหม่ได้ว่า …

… มรณะ + ลาภะ – ความเสียหายที่ได้รับการแก้ไข …

… วินาสน์ + ลาภะ – ลาภกลับมาหาสู่ … ความล้มเหลวที่ได้รับการพัฒนา …

… ดังนั้นสรุปดวงชาตานี้เป็นเจ้าสัวอย่างแน่แท้ …

 

original--หน้าหนุ่ม

… อ้อ … เกือบลืมไป … ถ้าทุกคนตั้งเรือนกัมมะเป็นลัคนา เรือนอริเดิมจะกลายเป็นเรือนศุภะ ของกัมมะในทันที แปลง่ายๆก็คือ อริที่มาเป็นศุภะก็คือ … ความขยันหมั่นเพียรจะทำให้เป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จในงานขึ้นมาได้อย่างแท้จริง นะครับ …

… สวัสดีครับ …

… อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม …

 

พระแท้พระดีโชคดีปลอดภัย

04-04-ยามที่-8

 

…จัดเป็นสูตรยามกลางวันได้ดังนี้คือ …… ภาพดวงด้านบนนี้เป็นภาพดวงยามอัฏฐกาล ในวันที่ ๑๗ เม.ย.๒๕๖๒ … วันพุธ เวลา ๑๗.๔๘ น.ยามที่ ๘ เป็นยาม ๔ …

… สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานในโหราศาสตร์ …

… ดวงที่เห็นด้านบนนี้เป็นดวงยามกาลชาตาตั้งแต่เวลา ๑๖.๓๐ น. ถึง ๑๘.๐๐ น.ในวันพุธ …

… วันพุธ ยามกลางวัน        ๔   ๒   ๗   ๕   ๓   ๑   ๖   ๔

… ยามที่ ๘ คือยาม ๔

… ผมต้องขออธิบายเรื่องยามเวลาก่อนกล่าวคิอ …

… ใน ๑ วันมี ๑๖ ยาม

… แบ่งเป็นยามกลางวันทั้งหมด ๘ ยาม … โดยแบ่งเป็นยามละหนึ่งช.ม.ครึ่ง …

… และยามกลางคืนทั้งหมด ๘ ยาม … โดยแบ่งเป็นยามละหนึ่งช.ม.ครึ่งเช่นกัน …

วันอาทิตย์  ๑   ๖    ๔   ๒  ๗   ๕   ๓   ๑

วันจันทร์     ๒   ๗   ๕   ๓   ๑   ๖   ๔   ๒

วันอังคาร   ๓    ๑   ๖   ๔   ๒   ๗   ๕   ๓

วันพุธ         ๔   ๒   ๗   ๕   ๓   ๑   ๖   ๔

วันพฤหัส    ๕   ๓   ๑   ๖   ๔   ๒   ๗   ๕

วันศุกร์       ๖   ๔   ๒   ๗   ๕   ๓   ๑   ๖

วันเสาร์      ๗   ๕   ๓   ๑   ๖   ๔   ๒   ๗

… ผมจะขออธิบายการแบ่งยามในวันพุธ กลางวัน…

… ๔  ๒  ๗  ๕  ๓  ๑  ๖  ๔

ยามที่ ๑ เป็นยามดาวพุธ  ตั้งแต่เวลา ๐๖.๐๐ น.ถึง ๐๗.๓๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง

ยามที่ ๒ เป็นยามดาวจันทร์        ตั้งแต่เวลา ๐๗.๓๑ น.ถึง ๐๙.๐๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง

ยามที่ ๓ เป็นยามดาวเสาร์          ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๑ น.ถึง ๑๐.๓๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง

ยามที่ ๔ เป็นยามดาวพฤหัสบดี     ตั้งแต่เวลา ๑๐.๓๑ น.ถึง ๑๒.๐๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง

ยามที่ ๕ เป็นยามดาวอังคาร      ตั้งแต่เวลา ๑๒.๐๑ น.ถึง ๑๓.๓๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง

ยามที่ ๖ เป็นยามดาวอาทิตย์     ตั้งแต่เวลา ๑๓.๓๑ น.ถึง ๑๕.๐๐  น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง

ยามที่ ๗ เป็นยามดาวศุกร์    ตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๑ น.ถึง ๑๖.๓๐ น. เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง

ยามที่ ๘ เป็นยามดาวพุธ   ตั้งแต่เวลา ๑๖.๓๑ น.ถึง ๑๘.๐๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง

… สังเกตุดูดีๆจะเห็นได้ว่ายามที่ ๑ กับยามที่ ๘ ของทุกวันจะเหมือนกัน … ในทุกวัน …

… อีกประการหนึ่งก็คือ…ถ้าท่องหัวใจยามวันอาทิตย์ได้ก็สามารถรู้ยามในวันต่อไปได้โดยอัตโนมัติ …

… ส่วนในวันอื่นๆก็ใช้ดาวประจำวันเป็นตัวตั้งต่อไป …

… หัวใจยามกลางวันคือ…๑   ๖   ๔   ๒   ๗   ๕   ๓   ๑

… จัดเป็นสูตรยามกลางคืนได้ดังนี้คือ …

วันอาทิตย์  ๑   ๕   ๒   ๖   ๓   ๗   ๔   ๑

วันจันทร์     ๒   ๖   ๓   ๗   ๔   ๑   ๕   ๒

วันอังคาร    ๓   ๗   ๔   ๑   ๕   ๒   ๖   ๓

วันพุธ         ๔   ๑   ๕   ๒   ๖   ๓   ๗   ๔

วันพฤหัส    ๕   ๒   ๖   ๓   ๗   ๔   ๑   ๕

วันศุกร์        ๖   ๓   ๗   ๔   ๑   ๕   ๒   ๖

วันเสาร์       ๗   ๔   ๑   ๕   ๒   ๖   ๓   ๗

… แบ่งยามกลางคืนเป็นเหมือนยามกลางวันทุกประการ …

 

… หัวใจยามกลางคืนคือ … ๑   ๕   ๒   ๖   ๓   ๗   ๔   ๑  

 

 

04-04-ยามที่-8

… ภาพดวงยามอัฏฐกาล ในวันที่ ๑๗ เม.ย.๒๕๖๒ …วันพุธ เวลา ๑๗.๔๘ น.ยามที่ ๘ เป็นยาม ๔ …

… วันนี้ช่วงเวลา ๑๗.๔๘ น. ผมกุมพระกริ่งฤาษีอยู่ในมือนึกสังหรณ์ใจขึ้นมาวูบหนึ่ง ถามในใจว่า … พระกริ่งองค์นี้แท้มั๊ยนี่ … ตกยามที่ ๘ ยาม ๔ … ลัคนายามตกราศีสิงห์ … ตัวยามคือดาว ๔ อยู่เรือนศุภะ – พระ … ตรงเรื่อง เป็นเกษตร – แท้แน่ๆ … เวลาไม่เกิน ๑๗.๕๒.๓๐ น.

ตกราศีสิงห์เรือนลาภะ – ความหวัง ดาว ๔ ไปอยู่เรือนศุภะ – พระ – เป็นเกษตร – คุ้มครอง … อ่านว่า ลาภะ + กฎุมภะ + ศุภะ + ศุภะ … แปลว่า

… ที่คาดหวังไว้ว่าจะได้พระแท้มาเพื่อปกปองคุ้มครองภัยอันตรายนั้นใช่พระแท้แน่นอน …

… จากลัคนาสิงห์ ๑ ตนุลัคน์ – เจ้าชาตาเป็นเกษตร ตรีโกณกับ ๓ ศุภะ – พระเป็นเกษตร – คุ้มครองรักษา …

แปลว่า พระปกป้องคุ้มครองรักษาเจ้าชาตา …

… จากจุดเวลา ดาว ๕ เจ้าเรือนปุตตะ – การเกิด + มรณะ – อันตราย ได้ตำแหน่งประ – ปะทะ …

 แปลว่า เมื่อเกิดอันตรายมาสู่ตัว …

ที่เรือนลาภะ ดาว ๔ กฎุมภะ – ได้มา + ลาภะ – ปลอดภัย ไปอยู่เรือนศุภะ – ปกป้อง เป็นเกษตร …

แปลว่า ได้มาซึ่งความปลอดภัยเสมอมา …

รวมแปลว่า …

… เมื่อเกิดอันตรายมาสู่ตัวคราใดก็จะได้มาซึ่งความปลอดภัยจากพระที่ปกป้องคุ้มครองรักษาเจ้าชาตาอยู่เสมอมา …

… เรามาแยกอ่านดาวที่เชื่อมกันทีละดวงเริ่มจากดาว …

… ๓ ศุภะ – คุ้มครองรักษา + พันธุ – ศรัทธาความเชื่อ อย่างจริงใจ – เกษตร …

… ๔ กฎุมภะ – ได้มา + ลาภะ – ปลอดภัย …

… ๕ ปุตตะ – การเกิด + มรณะ – อันตราย ที่เข้ามาปะทะ – ประ

… ๗ อริ – เหตุสุดวิสัยหรืออุบัติเหตุ

… ผสมดาว …

… ๕ พระ + ๓ – ศุภะ – คุ้มครอง + ๔ ได้มาซึ่งความปลอดภัย + ๗ – จากอุบัติเหตุ

… สังเกตุว่าดาว ๒ เจ้าเรือนวินาสน์ – ไม่คาดฝันเป็นนิจจ์ – นิดหน่อย

… ดาว ๗ เจ้าเรือนอริ – อุบัติเหตุเป็นนิจจ์ – นิดเดียว …

… ดาว ๕ เจ้าเรือนมรณะ – อันตรายเป็นประ – เล็กน้อย …

… จะเห็นว่าเจ้าเรือนทุสถานะหมดกำลังลงทุกดวง …

… ดาว ๑ ตนุมี ๖ เกษตรโยคหน้าได้ปทุมเกณฑ์ มี ๕ โยคหลังตรีโกณกับ ๓ เกษตร …

… ดาว ๓ + ๕ + ๑ + ๖ โยคกันโดยตลอด …

… ๘ เจ้าเรือนปัตนิ – สิ่งที่เกิดชึ้นจังๆหน้า ก็เป็นนิจจ์ – นิดหน่อย แถมยังโดน ๕ + ๓ โอบหน้า – หลังอยู่อีก …

… แม้ว่า ๘ จะอวตารตาม ๖ ไปอยู่ราศีตุลย์เป็นราชาโชค นึกว่าจะพ้นหรือไง ? … ปรากฏว่า ดาว ๕ อวตารตามดาว ๔ ไปอบู่ราศีเมษเป็นราชาโชคเล็ง ๘ สะกัดดาวรุ่งอีก … ตอบว่า … ไม่รอด …

 

 

… พระกริ่งฤาษีองค์นี้ตามประวัติเล่ามาว่า ล.พ.เงิน วัดบางคลาน เป็นผู้สร้าง เมื่อ ปี ๒๕๖๐ … แต่ยังไม่เป็นที่ยอมรับในวงการทั่วไป … แต่ไม่เป็นไรผมไม่สนใจ  เพราะผมมีประสบการณ์กับพระกริ่งองค์นี้อย่างเหลือเฟือ … ยิ่งในวันนี้ผมจับยามถามโดยตรง คำตอบก็คือ … มีพุทธคุณแน่นอน วันหน้ามีโอกาสจะมาเล่าให้ทุกท่านฟังนะครับ …

facebook

… อ้อ … ผมลืมบอกไปว่า พระกริ่งฤาษีองค์นี้ได้มาจากลูกชายคนที่ ๔ ของผมให้มา … ดูยังไงละ … บุตรคนที่ ๑ ราศีธนู … ดังนั้นคนที่ ๔ ก็อยู่ที่ราศีมีนไงละครับ …

… สวัสดีครับ …

… อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม …

 

ท่านเซียนแปะโรงสี โง้กิมโคย เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา

001

 

… ท่าน เซียนแปะโรงสี เดิมชื่อ … กิมโคย แซ้โง้ว … เกิดที่ประเทศจีน ตำบลเท้งไฮ้ได้เข้ามาประเทศไทยตั้งแต่อายุ ๑๐ ปี ต่อมาได้ค้าขายข้าวเปลือก แถวคุ้งน้ำปทุมธานี [วัดศาลเจ้า] … มีโรงสีข้าวในกิจการหลายแห่ง จนผู้คนเรียกติดปากกันว่า เถ้าแก่กิม … ต่อมาได้โอนสัญชาติเป็นคนไทย … มีชื่อว่า นที ทองศิริ …

… ท่านเซียนแปะ มีความชำนาญด้านโหราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ [ฮวงจุ้ย ฮวงซุ้ย] … และมีความรู้ด้านดาราศาตร์การดูดาว มีวิชาอาคมแก่กล้า จนลูกศิษย์ขนานนามว่า … เซียนแปะ … ฆราวาสจอมขมังเวทย์ … เมื่อครั้งเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ มีผู้ที่ศรัทธาจากแหล่งต่างๆ มาพบท่านแล้วให้ช่วยเหลือชี้แนะเกี่ยวกับฮวงจุ้ย ที่ตั้งบริษัท บ้าน ห้างร้าน และดูทำเลที่ตั้งฮวงซุ้ยของบรรพบุรุษ ท่านก็ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนและทุกข์ยากต่างๆ ดูฮวงจุ้ยและฮวงซุ้ย ให้ลูกศิษย์อยู่เสมอ โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน … … เซียนแปะ ท่านมีโครงร่างผอมสูง สุขุมเยือกเย็น ถึงแม้ท่านจะเป็นคนจีนแต่ก็ชอบเคี้ยวหมาก กินหมากพลูแบบคนไทย เวลาไปช่วยตรวจดูฮวงจุ้ย ฮวงซุ้ยที่ต่างประเทศ ยังต้องมีการนำตะกร้าหมากพลูไปด้วยอยู่เสมอๆ …
… เจ้าสัวซีพี … ได้ยินชื่อเสียงเลื่องลือจึงเชิญไปดูฮวงจุ้ย ทำเลที่ตั้งกิจการ และขอคำชี้แนะเสมอๆ ระยะหลังมานี่ เวลาจะซื้อที่ซื้อทาง ก็จะให้อาจารย์เซียนแปะ ไปตรวจดูให้โดยตลอดทุกครั้งไป …

… ทำให้กิจการของเจ้าสัวซีพี เจริญรุ่งเรืองเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ เวลาจะรับพนักงานระดับ หัวหน้างานขึ้นไป ก็จะเชิญอาแปะ ไปดูนรลักษณ์ให้เสมอๆ ทำให้ไดับุคลากรที่มีคุณภาพ ในการจัดการกิจการของเครือซีพี … เจ้าสัวซีพี … ศรัทธาท่านมาก จึงสร้างเหรียญรุ่นแรกถวาย … ทรงหยดน้ำ ปี ๒๕๑๘ และห้อยรุ่นนี้เพียงเหรียญเดียวมาโดยตลอด …

… เชื่อกันว่าท่านมีองค์ประทับอยู่ ซึ่งก็คือเจ้าพ่อปู่ของ ศาลเจ้าพ่อวัดศาลเจ้า โดยในงานประจำปีท่านจะจุดธูปเพื่อปัดเป่าลมฝนซึ่งฝนก็จะไม่ตกและท้องฟ้าก็จะแจ่มใสขึ้นมาในทันทีทันใด …

001.ท่าน-อ.โค้วกิมโคย

 

 … ยันต์ฟ้าประทานพรนี้เป็นยันต์ประจำตัวของเซียนแปะ … กล่าวกันว่าผู้ใดพกพาหรือติดตั้งอยู่ในสถานที่ใด จะพบแต่ความเจริญรุ่งเรือง นำพาโชคลาภเงินทอง รวมถึงสามารถใช้แก้ฮวงจุ้ยเสริมดวง นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อทางด้านกันไฟและสิ่งไม่ดีทุกชนิด

ยันต์ฟ้าประทานพร เดิมเป็นยันต์ที่สามมหาเทพ … ซัมกัวไต่ตี่ … ได้มีบัญชาให้เง๊กเซียน ฮ้องเต้นำมาช่วยโลกมนุษย์ …ผ่านเจ้าพ่อ ปึงเถ่ากงม่า มาประทับทรงอาแปะ เขียนขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ไหว้กราบไหว้บูชา เพื่อปรับฮวงจุ้ย ปรับดวงชะตา ขับไล่อาถรรพ์ต่างๆ เปิด  …
17658
RGgukq5E6HBS5wvERDA3ZF4P2WKQy2VoZZet1QV2S6BMJrdugLYeRmUSChPL7AzCbRxYcEDPnS2PajHjdgSAR7HVXakBQ4GtBGwoH9Jwh78AweobzJ2siEUgwujXY6S

 … [ เขาเล่ากันว่า ] …ไม่ว่าเราคิดที่จะประกอบกิจการอันใด หรือในยามใดที่เราตกอยู่ในความทุกข์ยาก ให้เราตั้งจิตระลึกถึงท่านพระอาจารย์โง้วกิมโคย แล้วอธิฐานในสิ่งที่เราอยากให้ท่านช่วย แต่อย่าบนบานศาลกล่าว … ว่าจะยกนั่นยกนี่ ไปแก้บนโดยเด็ดขาด …

…โชคดีแล้วเจอกันนะครับทุกคน ” …

… ลิงค์ต่อไปนี้เป็น คลิปวีดีโอของ … เซียนแปะโรงสี … เชิญรับ – ชม ครับ …
 

โคลงกลอนจากทักษาพยากรณ์

… จากคัมภีร์มหาภูตพม่า …
 
… เรียบเรียงโดย … ชยสีรีภิกขุ [ สีอ่อง ] …
 
… อำนาจพระเคราะห์ …
203
… อำนาจพระเคราะห์ …
 
… พระเคราะห์ทั้งหลาย ย่อมมีอำนาจหรือธรรมชาติผิดแผกกัน เมื่อกล่าวโดยเฉพาะก็เป็นดังนี้ …
… อาทิตย์ ทำให้กำลังแห่งชีวิตแข็งแรง ว่องไว ใจร้อน มีศรัทธาอารีอารอบ ซื่อตรงปราศจากความกลัว ชอบอิสรภาพ มีสติปัญญา ฉลาดในวิชา คล่องแคล่วมียศศักดิ์หลักฐาน …
 
… จันทร์ ทำให้มีใจร่าเริงชอบในทางประโลมต่างๆ รูปโฉมเป็นเสน่ห์ น่ารักมีสง่า ชอบบทกลอน ช่างประดิษฐ์ มักเปลี่ยนใจง่าย ใจไม่แน่นอน มากไปด้วยความนึกฝัน รับประกันในธุระผู้อื่นด้วยเกียรติยศ [ ชอบรับธุระของคนอื่น ] …
 
… อังคาร มีความขยันหมั่นเพียร กล้าพูด โกรธง่าย เข้มแข็ง ว่องไว ฉุนเฉียว มุทะลุตึงตัง ปรา่ศจากความยั้งคิด กิริยาวาจาหยาบ ไม่ชอบอยู่ในบังคับใคร ชอบสนุก …
 
… พุธ ช่างพูด เป็นนักประพันธ์ ชอบเรียนวิชา ฉลาดในทางโต้วาที มักระวังรักษา มีธุระมาก เฉียบแหลมในอุบาย สุภาพมาก สามารถเกี่ยวกับการค้า แต่มักตื่นตกใจและเปลี่ยนใจง่ายๆ …
… พฤหัสบดี มีความชื่นชมยินดีใจอารีย์ เต็มไปด้วยเมตตากรุณา มีสติปัญญา ช่างคิด สุขุมรอบคอบ รู้สึกผิดชอบ ระมัดระวังทางภูมิ – วิทยา มีหน้าที่ปกครอง …
… ราหู ทำอะไรมักแปลกเพื่อน ลุ่มหลง ขาดวิจารย์ สติวิปลาศ มักใหญ่ใฝ่สูง ถือใจเป็นใหญ่ คอยทำลายเสมอ มัวเมา …
… ศุกร์ ทำให้สุภาพ มีสง่างาม น่าเลื่อมใส ในมารยาทสงบเสงี่ยม     รักสวยรักงาม เกี่ยวด้วยความรัก การสมรส เป็นนักจินตกวี ชอบในทางมัชฌิมาปฏิบัติ และเกี่ยวด้วยทรัพย์สิน …
กำลังดาว
 … กำลังของดวงดาวตามระบบทักษา …
 
… ตามหลักที่กล่าวมานี้ เป็นประโยชน์แก่การพิสูจน์ว่า มนุษย์ผู้อยู่ใต้อำนาจพระเคราะห์นั้นๆ ย่อมมีอุปนิสัยใจคอ กิริยาอาการ ความประพฤติเป็นต้น เป็นไปตามอำนาจบังคับแห่งพระเคราะห์ทุกประการ อนึ่งเพื่อความสะดวกแก่ผู้ศึกษาที่จะอ่านจำ อำนาจหน้าที่และพาหนะของพระเคราะห์พร้อมด้วยทิศที่พระเคราะห์ประจำ จึงขอนำคำที่ท่านผูกเป็นกลอนไว้ในที่นี้ด้วย ดังต่อไปนี้ …
 
 … อาทิตย์ …
 
    พระสุริยาทิตย์ มีฤทธิ์แรงกล้า           อิสาณทิศา ทรงซึ่งไกรสร
เพราะทำซึ่งวัน นามนั้นทิวากร              มีแสงอันร้อน ด้วยเป็นธาตุไฟ
อีกให้ว่องไว น้ำใจการุณ                      เมตตาเจือจุน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
กอร์ปด้วยธรรมา ศรัทธาแน่วแน่            มิได้ผันแปร สถิตตั้งมั่น
ท่าทางองอาจ ไม่ขลาดภัยยัน              น้ำใจคนนั้น ร้อนดังอัคคี
ตามถ้อยปรากฏ ดูยศศักดิ์ศรี                หลักฐานที่ดี ท่านว่าอาทิตย์
 
                                     … จันทร์ …
 
   จันทราเทพเจ้า แสงขาวเย็นจิต           ในบูรพาทิศ ทรงซึ่งอาชานัย
นามนิสากร ไม่ร้อนดังไฟ                       ทรงคุณยิ่งใหญ่ ธาตุน้ำทรงโฉม
ทำจิตให้เริง บรรเทิงประโลม                  ผิวพรรณรูปโฉม เป็นเสน่ห์ยวนตา
ใจไม่แน่นอน ชอบกลอนภาษา               เป็นศรีสง่า ช่างทำประดิษฐ์
อันเรื่องสตรี ดรุณีจริต                            เกี่ยวกับความคิด คือจันทร์โสภา
 
   … อังคาร …
 
 อังคารทรงฤทธิ์ มหิทธิศักดา               มีแสงแดดจ้า ดุจเช่นโกเมน
ธาตุไฟร้อนเร่า แผดเผาไม่เย็น               อันปรากฏเป็น แข็งและแห้งผาก
ทำให้ปวงชน ต้องทนลำบาก                  ตกทุกข์ได้ยาก เสียผลประโยชน์
กล้าหาญชาญชัย น้ำใจมักโกรธ              กอร์ปไปด้วยโทษ ฉุนเฉียวตึงตัง  
ใจเร็วเลือดร้อน ไม่ผ่อนยับยั้ง                 ไม่ดูหน้าหลัง ทำการอุกอาจ
ขยันหมั่นเพียร เล่าเรียนศิลปศาสตร์        โหรเฒ่าเปรื่องปราชญ์ บอกแจ้งภุมมา
สถิตอาคเนย์ เป็นเทวราชา                     ทรงซึ่งมหิงสา เป็นอาศน์สถาน   
 
… พุธ …
 
ช่างพูดเจรจา พ่อค้าหลักฐาน              ฉลาดการงาน รจนาคัมภีร์
เชี่ยวชาญปรีปราชญ์ สามารถพจี             อ่อนหวานพาที อีกตื่นตกใจ
ทั้งนี้เทวา พุทธาเทพไท                        ทรงศักดิ์ยิ่งใหญ่ ให้ผลเที่ยงตรง
ทรงคชคเชนทร์ อันเป็นอาสน์ทรง           สถิตดำรง ในทักษิณา
แสงขาวเย็นชื่น กลางคืนทิวา                  ธาตุลมพัดมา ธาตุดินราตรี
 
 
    … เสาร์ …
 
   เสาร์เทวราช ทรงอาสน์พยัคฆี             ในทิศหรดี จอมเทพศักดา
เป็นเจ้าสันติ กสิกรรมา                           อะระยะธรรมถา วรมั่นสถิตนาน
แสงนั้นแดงคล้ำ เย็นฉ่ำชื่นบาน              ธาตุดินโวหาร ว่าดาวดวงใหญ่
ทำให้มนุษย์ สันตุฎฐ์พอใจ                    ในสิ่งตนได้ แต่พอประมาณ
เคราะห์โศกลำบาก ทุกข์ยากกันดาร       โทษร้ายแผ้วพาน เดือดร้อนนิรันดร์
อีกทั้งขรึมเข้ม วังเวงโศกศัลย์                แก้ตัวตะบัน เหล่านี้โสรา    
 
 
   … พฤหัสบดี …
 
   พฤหัสบดี รจิโสภา                              ทรงมฤคา ในทิศประจิม
ไม่สู้รุนแรง มีแสงนวลนิ่ม                       ชุ่มชื่นเอิบอิ่ม ทรงคุณมหันต์
ดาราดวงใหญ่ ธาตุไฟกลางวัน               ในกลางคืนนั้น ธาตุน้ำผ่องใส
เกี่ยวด้วยปัญญา ปรีขาเชาน์ไว               ทรงคุณอำไพ เมตตาปราณี
รอบรู้วิชา สัมมาจารี                               ใจคอยินดี แต่บุญกุศล
พฤหัสบดีเทวราช ประสาทศุภผล             มีคุณอนัน แก่ปวงประชา
 
 
                                       … ราหู …
 
   อสุรินทร์เรืองฤทธิ์ มหิทธิศักดา             สุบรรณราขา เป็นพาหะทรง
แสงสีสะอาด เทวราชจอมพงศ์                 สถิตดำรงค์ พายัพทิศา
เดือดร้อนเกิดเหตุ อาเพศพาทา                ศัตรูภยา ทุกข์ยากโศกเศร้า
ย่อมมีสืบมา อสุราร่วมเข้า                         ไม่น้อยกว่าเสาร์ ดุจนั้นแลนา
 
 
… ศุกร์ …
 
   พระศุกร์สัญจร อุดรทิศา                       ทรงโคราชา เป็นอาสน์เฉิกฉัน
แลดูสวยสม ธาตุลมกลางวัน                    ธาตุดินเหล่านั้น เกิดมีกลางคืน
รัศมีกระจ่าง สว่างภาคพื้น                        ให้ความชุ่มชื่น อบอุ่นฤทัย
ชอบเรื่องเมถุน หมกมุ่นฝักใฝ่                   มุ่งศิวิไลย์ รักสวยรักงาม
ชอบสันติภาพ ไม่หยาบลามปาม               พูดไม่หยาบหยาม นิสัยผู้ดี
กิเลศกำจัด สมบัติโภคี                             มัชฌิมาจารี คือศุกร์เทวา
01.--Ra-jan-xxxxx
… ผมสังเกตุเห็นว่า … อำนาจของดาวพระเคราะห์ … จากคัมภีร์มหาภูตพม่า ของท่าน ชยสิรีภิกขุ [ สีอ่อง ] … มีโคลงกลอนของดาวพระเคราะห์ต่างๆ … อ่านแล้วดูดี … จึงนำมาฝากให้กับนักศึกษาที่ยังใช้ระบบทักษากันอยู่ … ส่วนผู้ที่ไม่ได้ใช้ระบบทักษากันแล้ว … ก็อ่านได้ … และศึกษาค้นคว้ากันได้นะครับ …
 
… สวัสดีครับ …
 
… อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม …
 

เจ้าเรือนเกษตรแบบ Mix

Mix-02.

โหราพาเพลิน ตอน … เจ้าเรือนเกษตร แบบ Mix …

… วันนี้ตั้งแต่ตื่นมา ๑๐.๐๐ น. ทำเว็บ และทำ Blogger ไม่ได้หยุดเลย อากาศร้อนก็ร้อน
อบอ้าวก็อบอ้าว … ก็ยังทำโน่นทำนี่ไปเรื่อยแหละครับ … ทำยังไงได้ก็ชอบทำนี่ …

… วันนี้ [ วันที่ ๑๐ เม.ย.๒๕๖๒ ] … เป็นวันอังคาร เวลา ๑๕.๒๕ น. ยามที่ ๗ ยามศุกร์ … อ่านตาม
ยามนาฬิกาได่ว่า … สหัชชะ + ตนุ + อริ … แปลว่ากำลังยุ่งกับงานที่รีกยิ่ง [ ผมราศีพฤศจิก ] … อ้าว … คำว่ากำลังยุ่งกับงานที่รักยิ่ง … เอามาจากไหนละ? … ก็พอดีดาว ๑ กัมมะจร – งาน   อยู่ที่ราศีมีนเรือนปุตตะ [ รักยิ่ง ] … ตรีโกณกับ ๙ [ ยุ่ง ] … เรือนตนุ …
เวลา ๑๕.๒๕ น. เข็มสั้นตก สหัชชะ  ส่วนเข็มยาวนาฬิกาตก ตนุ [ ราศีพฤศจิก ] …

… วินาทีนั้นตกยาม ๖ เป็นคู่มิตรกับวันอังคาร …

… ในวินาทีนั้นลูกศิษย์ราศีกรกฏ line มาบอกว่า … อาจารย์ค่ะ วันนี้มีคนติดต่อเรื่องบ้านเข้ามา นัดโอนบ้านวันที่ ๑๗ เม.ย. ๒๕๖๒ นี้ค่ะ …

ผมคิดในใจว่า … อะไรจะแม่นยำขนาดนี้ … ขอให้ทุกรายแม่นแบบนี้ก็น่าจะดีไม่น้อย สาธุ …
… ฟังดูทุกคนคงจะงงอยู่มาก … [ ยาม ๖ สำหรับคนราศีกรกฏหมายถึง พันธุ + ลาภะ ] …

… เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้ …

… เมื่อวานมีลูกศิษย์คนราศีกรกฏ …
โทรมาดูดวงถามว่า … เดือนนี้หนูจะขายบ้านได้ไหม ! …
ผมก็เหลือบมองเห็นว่าดาว ๔  สหัชชะ –  การติดต่อ  +
วินาสน์ – ไม่คาดฝัน … ย้ายคืนนี้ ๒.๓๕ น [ วันที่ ๙ เม.ย. ๒๕๖๒ ] … จากราศีกุมภ์เรือนมรณะ ไปราศีมีนเรือน ศุภะ – ความสำเร็จ
และในนวางศ์แรก ดาว ๔ ก็อยู่ราศีกรกฏทับลัคน์พอดี … ส่วนดาว ๔ ในดวงเดิมอยู่ราศี
ธนูเรือนอริ – ขัดข้อง – ติดขัด … อ่านรวมกันได้ว่า …

… สหัชชะ + วินาสน์ + อริ + ศุภะ + ตนุ … แปลว่า …

…ในที่สุดปัญหาของเจ้าชาตาที่ติดขัดอยู่ก็สามารถสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี อย่างไม่คาดฝัน …

… ส่วนในวันที่ ๑๗ เม.ย. ๒๕๖๒ ดาว ๖ จร พันธุ – บ้าน + ลาภะ – ความหวัง ก็จะย้ายจากราศีกุมภ์เรือนมรณะไปเรือนศุภะด้วยเช่นกันได้ตำแหน่งอุจจ์ – มาก … ซึ่งนวางศ์แรกดาว ๖ จะไปกุมลัคน์ได้ตำแหน่ง
ราขาโขค – ง่ายดาย …
… ส่วนดาว ๖ ในดวงเดิมก็อยู่ที่ราศีมีนด้วยเข่นกัน … อ่านรวมกันได้ว่า …

… พันธุ + ลาภะ + ศุภะ + ศุภะ + ตนุ … แปลว่า …

… เจ้าชาตามีความสำเร็จจากการขายบ้านอย่างที่ได้ตั้งใจหมายมั่นเอาไว้ …

… ทั้งหมดที่กล่าวมายืดยาวปานนี้ … ผมคำนวณอยู่ในใจประมาณ ๒ วินาที ผมก็ตอบออกไปว่า …
… ขายบ้านได้แน่ภายในเดือนนี้ … พรุ่งนี่มีเกณฑ์การคิดต่อเข้ามา … วันที่ ๑๗ เม.ย.๒๕๖๒ ให้ผลดีใน
เรื่องเกี่ยวกับการขายบ้าน …
… เวลาที่ดาวย้าย เราจับเอามาทาย บางทีก็แม่นเหมือนกับจับวางอย่างที่เห็นนี่ละครับ …

17

 

… ดวงชาตาเจ้าภู … [ ดาวจรวันที่ ๑๑ เม.ย.๒๕๖๒ ] …
… ชาย … วันที่ ๑๓ มิ.ย.๒๕๒๐ เวลา ๑๑.๑๐ น.
… วันจันทร์ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะเส็ง …

… วันที่ ๑๑ เม.ย.๒๕๖๒ … ผมกำลังฟังเพลง Soldier of  Fortune เพลินๆ ได้ยินเสียงเจ้า ภู [ ลูกชาย ] … ลอยมาตามลมว่า …
… พ่อ … ผมนะปวดหัวกับเจ้าดิว [ หลานชายผม ] … มันเหลือเกิน … ผมถามไปว่า … เรื่องอะไรละ !
… ภูตอบว่า … เรื่องเรียนของมันนะสิพ่อ ดิวต้องซ่อมตั้ง ๑๓ วิชา … ผมอุทานไปว่า … โอ้โฮ ไม่ธรรมดา
นะนี่ เจ้าดิว หนักหนา สาหัส …  ภูถามมาอีกว่า … ดาว ๕ ปุตตะเป็นเกษตร อยู่ในเรือนของมันน่าจะดี
ทำไมผมถึงต้องปวดหัวกับเรื่องดิวละพ่อ … ผมอธิบายไปว่า …

… จริงอยู่ ๕ เป็นเกษตรอยู่ แต่อย่าลืมว่าดาว ๕ พึ่งพักผ่อนเมื่อวันที่ ๙ เม.ย. มานี่เอง ทำให้เจ้า ๗ อริที่แฝงอยู่อยู่ที่เรือนปุตตะมานานนมแล้วมีกำลังขึ้นมาเพราะดาว ๕ นอนหลับ … แล้วดาว ๑ ตนุลัคน์จร ของแกก็เดินไปอยู่ราศีมีน –
เรือนมรณะ – ปวดหัว … เจ้าเรือนมรณะ ดาว ๕ ก็วิ่งไปอยู่เรือนปุตตะเป็นเกษตร และแถมยังพักร์ซะอีก
อ่านว่า ตนุ + มรณะ + ปุตตะ + ปุตตะ … แปลว่า เจ้าชาตาปวดหัวกับบุตรอย่างจริงจังไม่ล้อเล่น …

… จากดาวจร ดาว ๑ กุม ดาว ๔ … ๑ + ๔ = การศึกษา …

… แปลรวมออกมาว่า …  เจ้าชาตาปวดหัวกับบุตรอย่างจริงจังไม่ล้อเล่น + ในเรื่องการศึกษา …
… ยังไม่ชัดเจน … เราต้องไปสอบสวนเรื่องของดาว ๔ ดูให้ละเอียด ว่าดาว ๔ เป็นใครมาจากไหน ? …
… ตั้งราศีธนูเป็นลัคนาบุตร … จะเห็นว่าดาว ๔ เป็นเจ้าเรือน กัมมะ – การเรียน + ปัตนิ – ปัญหา …
… แปลรวมใหม่ …เจ้าชาตาปวดหัวกับบุตรอย่างจริงจังไม่ล้อเล่นในเรื่องการศึกษา ที่เป็นปัญหาจาก
การสอบที่ต้องซ่อม …

ดาว ๗ อริ + ซ่อม – แก้ไข ส่งกำลัง 3 ไปที่ ๑ ศุภะ – สภาพ + ๔ กัมมะ – การเรียน + ปัตนิ – ปัญหา …
… แปลว่า … การซ่อมวิชาที่สอบตก …

… อีกอย่างหนึ่ง ดิว เป็นลูกคนที่ ๔ ตำแหน่งลูกคนที่ ๔ ก็คือราศีมีนนั่นเอง ดังนั้นคนุลัคน์ดิวอีกตัวก็คือ
ดาวเนปจูน – ดาวคอมมิวนิสต์  จอมบงการ  เจ้าแผนการ ฯลฯ … ภูถามมาว่า …
… ทำไมพ่อเอาดาวฝรั่งมาปนกับดาวไทยละพ่อ ? … ผมตอบไปว่า …
… การที่เรานำเอาดาวเกษตร ๒ เรือน กับเกษตร เรือนเดียวของ อ.พลูหลวงนำมาใช้ร่วมกัน เพราะพ่อเห็นว่าหลักวิชาใดๆในโลก ล้วนย่อมต้องมาจากหลักการเดียวกันเสมอ เมื่อเราต้องการขยายความในการพยากรณ์ให้ชัดเจนขึ้น เราสามารถนำเอาดาว สมัยใหม่มาใช้ได้อย่างทันท่วงที … ยกตัวอย่างเช่น …

 

17

… ทำไมแม่แกไม่ได้อยู่ด้วย ? ทำไมแกอยู่กับยาย ? ทำไมพ่อถึงเป็นทรัพย์ ? …

… ที่แม่แกไม่ได้อยู่ด้วยก็เพราะ ดาวเนปจูน – มรณะ สถิตอยู่เรือนพันธุ – แม่ … อ่านว่า มรณะ + พันธุ
เจ้าเรือนพันธุคือดาว ๓ ไปเป็นเกษตรอยู่เรือนศุภะ – ต่างประเทศ …
แปลว่า … แม่จากแกไปอยู่ที่ต่างประเทศ … ภูถามต่อว่า … แม่อยู่ประเทศมาเลเซียดูยังไงละ? …
… ผมว่า … ไม่ยากซ์ … ตั้งลัคนาแม่ที่ราศีพฤศจิก ดาว ๑ มาเลเซียไปเล็งลัคน์แม่ อยู่เรือนปัตนิ – สามี ดาว ๖ เจ้าเรือนไปเป็นประ – คนอื่น อยู่ราศีเมษเรือน ศุภะ – พ่อเดิม – พ่อใหม่ …
… พ่อใหม่ดูยังไงครับพ่อ … ผมตอบไปว่า …
… จากลัคนาแม่ ๑ มาเลเซียอยู่เรือนปัตนิ = คู่ที่เป็นคนมาเลเซีย เป็นประ -เป็นคนอื่น กุมดาว ๕ เจ้าเรือนปุตตะ – คนรักใหม่ มาอยู่เป็นเกษตรแทนพ่อเดิม …

… ผมพูดต่อไปอีกว่า … ทำไมแกอยู่กับยาย ? ทำไมพ่อถึงเป็นทรัพย์ ? … จะหายาย ให้คั้งลัคนาแม่อยู่ที่ราศีพฤศจิก ราศีกรกฏก็คือยายแก ดาว ๒ ยายไปอยู่ราศีเมษตั้งเป็นลัคนายาย ลัคนาเดิมก็จะกลายเป็นเรือนปุตตะ – ลูกของยาย และดาว ๑ ปุตตะก็เป็นกฎุมภะ – สิ่งมีค่า ของยาย เลยในทันที …

… ภูพูดมาว่า … ฟังเรื่องดวงดาววันนี้ผมรู้สึกมึนอยู๋เหมือนกัน … เหลืออีกข้อหนึ่ง ทีาว่าพ่อเป็นทรัพย์ดูยังไงครับพ่อ … ผมคอบไปว่า … ภู … แกจะเห็นว่าเรือนพ่อที่ราศีเมษยังมีเจ้าเรือนอีกตัวยังไม่ได้ใช้ จะเห็นว่าดาวพลูโต – พ่อ – ดั้งเดิม [ พลูโตหมายถึงเก่าแก่ โบราณ ] … มาอยู่ราศีกันย์เรือนกฎุมภะ – ทรัพย์ …
… ก็แปลว่า พ่อจะเป็นทรัพย์ให้แกในอนาคต [ ศุภะ – พ่อ – อนาคต ] …

 

Mix-01.
… ดาวเกษตร Mix ภาพนี้นักโหราศาสตร์ทุกคนควรจะต้องจดจำไว้ให้ขึ้นใจพร้อมใช้งาน …

 

test-001.

… ดาวเกษตรทั้งแบบ เกษตรเรือนเดียว และเกษตร ๒ เรือน ทุกคนลองนำเอามาใช้กันซิครับ สนุกดี ตอบ
คำถามจากผู้ที่มาดูดวงชาตาชนิดที่ว่าไม่ต้องกลัวจนกันเลย … ผมเช็คมาจนชัวร์ ไปกันแบบปากกาลูกลื่นทีเดียว ไม่ต้องไปแยกทาย เหมือนกัน ถูกกันทั้ง ๒ ระบบนั่นแหละ ไม่มีใครเหนือใครหรอก แจ๋วทั้งคู่เลยละครับ …
… สวัสดีครับ …
… อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม …

 

 

 

จะเป็นโหรหรือโหน?

1.

 

… โหราศาสตร์เป็นวิชาที่มีการสืบทอดกันมาช้านานนับหลายพันปี ซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับดวงดาวโดยตรง … ผู้พยากรณ์ต้องอาศัย หลักวิชาการ ที่ละเอียด ลึกซึ้ง สุขุม รอบคอบ วิเคราะห์ในทุกแง่ของมุมมองให้แตกฉานและรัดกุม ต้องดูจากราศี ดวงดาว มุมโยคเกณฑ์ต่างๆ ให้จะแจ้งเสียก่อนจึงค่อยทำนายทายทักออกไป … ผู้พยากรณ์แยกประเภทได้ดังนี้ …

… ๑. มั่วตลอดตั้งแต่เริ่มทายยันเลิกทาย … คือทายส่งเดช ลักไก่ มั่วไม่เลิกตลอดรายการ พวกประเภทนี้ความรู้ด้อยน้อยนิดคิดแต่จะยัดเยียด ทายโน่น ทายนี่ ไปตามน้ำโดยตลอด ผู้มาตรวจดวงชาตาเจอแบบนี้ตอบว่า … กำไม่ต้องแบ …

… ๒. มัวนิ่มผิดบ้างถูกบ้างแล้วแต่ดวงผู้ดู … คือทายโดยยกหลักการ โคลงกลอนโหราศาสตร์มาอ้างอิง จำได้บ้าง จำไม่ได้บ้าง เปะปะ ไปเรื่อย อ้างอิงกฏเกณฑ์ต่างๆเป็นคุ้งเป็นแคว พล่ามกันไปเรื่อย เจอแบบนี้เรียกว่า … วิ่งจนป่าราบ …

… ๓.ไม่คิดจะมั่วพื้นฐานความรู้แน่นเปรี๊ยะ … คือตั้งอกตั้งใจทายอย่างรอบคอบ มีสติ + สะตังโดยตลอด พูดจามีน้ำหนักน่าเชื่อถือ ทำนายตรงไปตรงมาไม่วอกแวก แต่จะทำให้ผู้มาดูดวงค่อนข้างเครียดอยู่มากเจอแบบนี้เรียกว่า … อกสั่นขวัญแขวน …

… ๔. ไม่ชอบมั่วดูสดทุกวินาทีที่ดูดวงอยู่ … คือพร้อมที่จะตอบปัญหาที่ถามในทันที เช่นเขาถามถึงพี่น้องคนที่ ๑ … ก็จะดูพี่น้องคนต่อๆไปไว้ล่วงหน้าโดยไม่ต้องรอถามมา … สามารถตอบปัญหาทุกเรื่องใน ๑ วินาที เจอแบบนี้เรียกว่า … รวดเร็วทันใจหายสงสัย …

… ๕. บอกล่วงหน้าก่อนที่จะถูกผู้มาดูดวงถาม … คือพอเจอหน้าก็ทักว่า … เป็นคนที่เห็นวิญญาณตั้งแต่เด็กๆนี่ … เป็นดวงที่ไม่ถูกกับพ่อและแม่ … โดนพี่ชายคนที่ ๔ ทำร้ายจิตใจอยู่เรื่อย … ลูกคนที่ ๑ ไม่ค่อยถูกกับลูกคนมี่ ๓ ฯลฯ เจอแบบนี้เรียกว่า … ปลอดโปร่งโล่งใจ …

… ประเภทที่ ๑ – ๒ เรียกว่า … โหน – ลา – จาน …
… ประเภทที่ ๓ – ๔ เรียกว่า … กำลังไต่เต้าไปเป็นโห – รา – จารย์ …
… ประเภทที่ ๕ เรียกว่า … โหราจารย์ …
… ทุกท่านที่เป็นนักพยากรณ์ หมอดู ก็เลือกที่จะเป็นบุคคลประเภทใดได้ตามอัธยาศัยกันนะครับ …

กลอนโหราศาสตร์-แก้ไขจาก-คุณน้อย
… ความหมายของตำแหน่งมาตราฐานของดวงดาวในปัจจุบันมีดังนี้ …

… เกษตร … แปลว่า แน่นอน  ใช่เลย  ของๆเรา  เจ้าของที่แท้จริง  เสมอมา มั่นคง ถาวร …

… ประ … แปลว่า  ประปราย  ประจำ  เรื่องจุกจิก  หยุมหยิม  ของคนอื่น  ไม่มั่นคง …

… อุจจ์ …แปลว่า  อุดตัน  สาหัส  หนักหนา  มากมาย  ยิ่งใหญ่  โอ่อ่า  สูงสุด รุนแรง ยะโสโอหัง

สั่งอย่างเดียว …

… นิจจ์ … แปลว่า  นิดหน่อย  ต่ำช้า  ค่อยๆ ทีละน้อย  เรื่องที่เสื่อมเสียชื่อ  ฉ้อโกง  ไร้เกียรติ์

ไร้อำนาจ  ซกมก …

… มหาจักร … แปลว่า  ผาดโผน  พลิกผัน  คาดไม่ถึง  หน้ามือเป็นหลังมือ  ความก้าวหน้าอย่าง

โลดโผน  ความทะเยอทะยาน …

… จุลจักร … แปลว่า  ถ่อมตน  ชีวิตที่ราบเรียบ  เจียมตัว  นอบน้อม  เชื่องช้า  เชื่อฟัง  ทำตัวติดดิน

…  ราชาโชค … แปลว่า  สบายๆ  มีเสน่ห์  ง่ายดาย  พลิกฝ่ามือ  ง่ายๆ  โอกาสดี  มีผู้อุปถัมภ์ค้ำจุน

มีวาสนาดี  พระสงฆ์องค์เจ้าให้ความเมตตา  ลงทุนน้อยหรือไม่ได้ลงทุนเลย …

… เทวีโชค … แปลว่า  สตรีให้ความเอ็นดู  สมณะชีพราหมณ์เอ็นดูรักใคร่  มีโชคลาภจากสตรี

สูงศักดิ์  แพทย์หญิงหรือนางพยาบาล …

test-03.

… นักโหราศาสตร์มี ๒ ประเภทคือ … ๑. มีพรสวรรค์ … ๒.มีพรแสวง … คนมี่มีพรสวรรค์
สามารถเรียนรู้โหราศาสตร์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ทำนายทายทักแม่นยำเฉียบขาด …
ส่วนคนมีพรแสวงเรียนรู้โหราศาสตร์ได้เชื่องช้าและยากเข็ญ ทำนายทายทักมักผิดพลาดเพราะ
ไม่แน่ใจ ขาดความมั่นใจ …
… การเรียนวิชาโหราศาสตร์ให้ครบองค์ประกอบต้องมี ศิลป  ทักษะ  สิถิติ พรสวรรค์ + พรแสวง
และญาณหยั่งรู้ จึงจะเรียกว่า ท่าน โหราจารย์ อย่างเต็มภาคภูมิ ครับ …

… สวัสดีครับ …

… อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม …

 

โคลงกลอนการโคจรของเกตุ

 

 … จากบทความ ของ อ.ยอดธง ทับทิวไม้ …
 
… ในโหราศาสตร์ไทย เรียนด้วยตนเองใน ๓๐ ขั่วโมง …
 
… ยังมีตำราเกร็ดอีกเกี่ยวกับเกตุที่สามารถจะรวบรวมกันมาได้ นั่นคือการโคจรของเกตุเมื่อไปสัมพันธ์กับดาวเคราะห์ดวงอื่น
ท่านจารึกไว้ดังนี้ …
 
                                                              … เกตุ [ ๙ ] ทับอาทิตย์ [ ๑ ] …
 
                                                    … เกตุทับสุริยา                 มูลเหตุมาเดิมก็ดี
                                                    ภายหลังเกิดป่นปี้               เกิดเรื่องโกลาหล
                                                         โรคกรรมเวรบีฑา           สังขาราก็พิกล
                                                    ถ้อยความรุกลามล้น            โทษพาธาให้ร้อนใจ
 
… เกตุ [ ๙ ] ทับจันทร์ [ ๒ ] …
 
… เกตุโคจรผายผัน              มาทับจันทร์เสียโชคชัย
ร่างกายไม่ผ่องใส                 เกิดทุกข์ภัยมาถึงตน
    จิตใจมิสบาย                    เรื่องร้อนหลายพาสับสน
ภรรยาบุตรข้าคน                   เป็นเหตุร้ายให้บันดาล
 
                                                             … เกตุ [ ๙ ] ทับอังคาร [ ๓ ] …
 
                                                … พระเกตุโคจรมา                 ทับภุมมาในสถาน
                                               มิตรสหายจะมาพาล                ก่ออาฆาตวิวาทมูล
                                                    สตรีจะรุกเร้า                       ดังถูกเผาในกองกูณฑ์
                                                ศัตรูแต่ก่อนสูญ                       จะกลับมาเบียฬบีฑ์
 
… เกตุ [ ๙ ] ทับพุธ [ ๔ ] …
 
… พระเกตุโคจรมา                   ทับพุธในราศี
ศัตรูจะย่ำยี                              เร่งระวังอันตราย
    ลูกเมียแลทาสา                    จะผลาญพล่าทรัพย์สินหาย
เจ็บป่วยในร่างกาย                     ด้วยโรครักมักบีฑา
 
                                                          … เกตุ [ ๙ ] ทับพฤหัสบดี [ ๕ ] …
 
                                              … เกตุโคจรจรลี                        ถึงราศีทับชีวา
                                              ญาติมิตรสนิทพา                       นำเหตุใหญ่มาล้างผลาญ
                                                  ก่อเรื่องให้เคืองขุ่น                 เกิดว้าวุ่นกมลมาน
                                               ทุกข์ภัยเกิดบันดาล                    ทั้งสังขารโรคราวี
 
… เกตุ [ ๙ ] ทับศุกร์ [ ๖ ] …
 
… พระเกตุทับศุกรา                    เหล่าเมธาว่าไม่ดี 
ตามแบบโหราชี้                          ฆาตไว้แทบมรณา
    เจ็บป่วยทั้งกายใจ                   ถ้อยความใหญ่ลุกลามมา
ได้ยากสหัสสา                            โจราปล้นชิงทรัพย์ไป
 
                                                             … เกตุ [ ๙ ] ทับเสาร์ [ ๗ ] …
 
                                           … พระเกตุเสด็จมา                       ทับเสาราผิดวิสัย
                                           พิฆาตโทษและทุกข์ภัย                 คราวเคราะห์ร้ายต้องจองจำ
                                               ราชฑัณฑ์จะถึงตัว                     จะหมองมัวเกรียมระกำ
                                           เป็นเหตุเพราะถ้อยคำ                     พูดถลำด้วยโทษา
 
… เกตุ [ ๙ ] ทับราหู [ ๘ ] …
 
… เกตุทับราหู                                 โหราครูท่านปฤษณา
บอกแก่เหล่าลูกศิษย์หา                    คุณโทษาไม่แสดง
    แม้มีผู้ถามไถ่                                ด้วยสงสัยจิตระแวง
ท่านจงช่วยชี้แจง                              ให้แจ่มแจ้งหมดราศี
    ว่าเดิมพระราหู                               และพระเกตุสองท่านนี้
โคจรร่วมวิถี                                       ตามคัมภีร์เก่าแก่มา
    เกตุทับราหู                                    จะเสียที่อยู่และทรัพย์สิน  
 
… เช่นเดียวกันกับคำกล่าวของโหรโบราณ และบันทึกของ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ต่างก็ว่าเกตุนั้นเป็นดาว ที่มีหน้าที่เสริมทั้งดีและร้ายให้มีอิทธิพลแรงขึ้น แต่สำหรับคำกลอนโบราณทั้งหมดนี้ ซึ่งก็เชื่อกันว่าจะเป็นโบราณเก่าแก่กันจริงๆ กลับจะพูดได้ว่า ไม่ว่าเกตุจะโคจรทับดาวใด ไม่ว่าจะเป็นบาปเคราะห์หรือศุภเคราะห์ … ส่วนมากจะให้โทษทั้งสิ้น … ถ้าไม่ใช่เป็นโทษทัณฑ์ ก็เป็นการทรยศหักหลังหรือโรคภัยไข้เจ็บ … ไม่มีการเข้าร่วมกับดาวใดที่ได้กล่าวถึงผลดีที่จะเกิดขึ้น ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากมาก …
 
… แต่การตัดสินใจอย่างง่ายๆที่จะต้องตัดสินกันเอาไว้ก่อนก็คือ … การเข้าไปทับ หรือไปร่วมดาวใดดาวหนึ่งในระยะองศาที่ใกล้กันในลักษณะ Conjunction แล้วก็ถือให้โทษเช่นเดียวกับระยะเชิงมุมที่ร้ายต่อกัน ไม่ว่ากับดาวดวงใด ก็จะให้โทษแน่นอน ตามความหมายในภพและเรือนนั้นๆ ประการหนึ่ง หรือตามอิทธิพลและคุณสมบัติของดาวนั้นๆประการหนึ่ง …
 
… ก็คงต้องพยายามเข้าใจกันเอาเพียงเท่านั้น จนกว่าจะมีใครศึกษาค้นคว้ากันจริงๆจังๆ จนมีกฏเกณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ ที่จะสามารถยอมรับได้ว่า เป็นกฏเกณฑ์ที่ไม่เป็นเพียงสิทธิการิยะ หรือที่เดากันอยู่อย่างทุกวันนี้ …
 
 … อ.ยอดธง ทับทิวไม้ … 
 


… โคลงกลอนไม่ใช่มีไว้เพื่อความไพราะเสนาะหู เท่านั้น แต่มีเพื่อเป็นความรู้ให้ผู้คนได้จดจำความเป็นมาของดวงดาวว่าเป็นมิตรหรือเป็นศัตรูต่อกัน มีเรื่องราวความเป็นมาอย่างไรต่อกัน จะเกิดความเข้าใจมากกว่าที่จะท่องจำ … เหมือนเป็นดังนกขุนทองที่ไม่เช้าใจในสิ่งที่ตนเองจดจำเท่าใดนัก …
 
… สวัสดีครับ …
… อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม …
 

ดวงชาตาหญิงงามเมือง

     … ดวงหญิง เกิดวันที่ ๗ เม.ย. ๒๔๙๗ เวลา ๒๓.๑๕ น.
 
                 … ดวงชาตาหญิงงามเมือง …
… สำนวนการทำนายของท่าน อ. อักษร ไพบูลย์ … 


… การพยากรณ์พื้นดวงเดิม …

… ตัวเธอ … ตนุ ลัคนาอยู่ในราศีพิจิกดาว ๓ อังคารเป็นกาลี … ๖ เป็นมูละ ฉะนั้นเดือดร้อนเรื่องที่อยู่เสมอเพราะลัคนาอยู่
 
เรือนกาลี …  ๖ เป็นมูละแปลว่าหลักฐานเป็นอริแก่ลัคนา จึงอยู่ที่ไหนไม่ได้นาน ต้องเดินทางบ่อยๆย้ายที่อยู่เสมอ …
 ดาว ๕ เป็นเจ้าเรือน กฎุมภะ ไปอยู่กับดาว ๒ ที่เรือนปัตนิ เขาจะได้คู่นอนเป็นที่ทำมากิน แต่การได้คู่นอนนั้น ไม่มีพิธี
แต่งงาน … [ ๕ กับ ๒ อยู่ด้วยกัน ] …
 
 
… ชอบกันรักกันก็ลงเอยกัน ส่วนกฎุมภะมีดาว ๓ เป็นกาลีสถิตอยู่ย่อมเก็บเงินไม่ได้ อังคารกาลีกุมราหู ๘ เป็นศรี …
 
เท่ากับการได้เงินมาอย่างไม่มีเกียรติ … แต่ ดาว ๕ เป็นเดชอยู่ภพปัตนิเล็งลัคนา การหาเงินของเธอไม่ใช่หาเงินอย่าง
โสเภณีชั้นต่ำ … เธอหาเงินอย่างไว้ตัวหรือถือตัว เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ผู้หญิงหากินชั้นสูง … ดาว ๖ ปัตนิอยู่อริ ฉะนั้นเขา
มีคู่ที่แท้จริงไม่ได้ มีแล้วต้องเลิก … และมีใหม่ไปเรื่อยๆ มีคู่โดยสมัครใจกันเอง …
… ต่อไปนี้ผมขอขยายความในมุมมองอื่นๆ …
 
 
… เรามาดูกันทำไมหล่อนจึงเป็นโสเภณี ? …
 
… ดาว ๑ กัมมะ [ งาน, ภาระกิจ , หน้าที่ ]   ไปกุม ๔ ลาภะ [ รายได้ ,ตัณหา,โลภ ] … ๑ + ๔ = ชายหนุ่ม …
+ มรณะ … [ ปิดบัง, คนแปลกหน้า, รายได้จากงาน ] … อยู่ราศีมีนภพปุตตะ [ ดูแล,เอาใจใส่,กามารมณ์,อ่อนวัย ] …
 
ดาว ๕ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีพฤษภภพ ปัตนิ  [ เพศตรงข้าม , เพศสัมพันธ์ , ลูกค้า ,คู่ขา ,เป็นประจำ ] … กุมดาว ๒ ศุภะ … 
 
[ ความสุข , ที่พึ่ง , สูงวัย ] … ๕ + ๒ คู่ธาตุ [ แนบสนิท , แน่นแฟ้น , สนิทสนม ] … ดาว ๖ ปัตนิ ไปอยู่ราศีเมษภพอริ …
 
[ บริการ , ต้อนรับ ] … เล็งดาว ๗ สหัชชะ [ สิ่งซ่อนเร้นหลังบ้าน , การเกี่ยวข้อง, การติดต่อ ,ใกล้ชิด ] … 
 
ที่ราศีตุลย์ภพวินาสน์  [ ครั้งคราว, ซ่อนเร้น ,ปิดบัง ] … โยคหลังดาว ๓ ตนุ  [ เจ้าชาตา ] ที่กุม ๘ เจ้าเรือนภพพันธุ
 
[ สถานที่, ความสัมพันธ์ ] … อยู่ที่ราศีธนูภพกฎุมภะ [ เงิน, เจรจา , ฝักใฝ่ ] …
… นอกจากนี้ ๗ ยังทำมุมจตุโกณกับดาว ๐ พันธุ [ ห้องนอน,ตึก ,บ้าน , สถานที่,ทันสมัย ] … อยู่ภพศุภะ [ ให้ความสุข ] 
 
ดาว ๒ ไปอยู่ราศีพฤษภ ภพปัตนิ [ ลูกค้า , คู่ขา , คู่นอน ] …
 
 
 
… แปลว่า เจ้าชาตาทำงานในด้านบริการในเรื่องเพศสัมพันธ์กับหนุ่มน้อยและหนุ่มมากและก็มีลูกค้าขาประจำ มาหาสู่เป็น
 
แทบไม่ว่างเว้น เพราะคุณเธอทำหน้าที่ดูแล และเอาใจใส่ในลูกค้าได้เป็นอย่างดี ไม่ขาดตกบกพร่อง …เป็นที่ติดอกติดใจ
 
ของผู้ที่เข้ามารับการบริการเป็นอย่างยิ่ง … ส่วนสถานที่ซึ่งให้การบริการก็เป็นตึกที่ทันสมัย และสวยงาม ด้านหลังก็จะมี
 
ห้อง หอรอรัก ซ่อนเร้นแอบอยู่ด้านหลัง รอคอยให้แขกประจำทั้งหลายเข้ามาเยี่ยมเยียน …
… เราลองแยกดาวมาวิเคราะห์กันดูจะเห็นว่า …
 
 
… ดาว ๑ กัมมะ [ งาน,อาชีพ, ภาระกิจ ] ไปอยู่ราศีมีนเป็นมรณะ [ ความลับ,ไม่เปิดเผย ] กับเรือนตนเอง …
 
… ดาว ๑ อยู่ภพ ปุตตะ [ ระบายความใคร่ ,อารมณ์ในรัก , แรงปารถนา ] และเป็นภพวินาสน์ [ การซ่อนเร้น , แอบแฝง ] 
 
ของลัคนาโลก …
 
… แปลว่า … งานบริการความใคร่ของเจ้าชาตาเป็นความลับที่ไม่เปิดเผย …
 
 
… ดาว ๖ ประ ปัตนิ [ คู่ขา ] + วินาสน์ [ เป็นครั้งคราว ]  [ ความรักประเดี๋ยวประด๋าว, ชั่วคราว ] อยู่ราศีเมษ หมายถึงหน้า …
 
… แถมยังมี ๗ [ เก่า ] สหัชชะ [ การเยี่ยมเยียน ] … เล็ง และยังแฝงเกษตรไปที่ดาว ๕ ปุตตะ [ ใหม่ ] …
 
 
… แปลว่า … ผู้คนที่เข้ามาเยี่ยมเยียนหาความสุขชั่วคราว … มีทั้งหน้า – เก่า และ หน้า – ใหม่ …
 
 
… ดาว ๐ พันธุ [ สถานที่ ] … อยู่ภพศุภะ [ ให้ความสุข ] … ดาว ๒ ไปอยู่ภพปัตนิ [ เพศตรงข้าม ] …
 
 
… แปลว่า … สถานที่บริการความใคร่สุภาพบุรุษ สำนักงานโสเภณี …
 
… จากดาว ๓ ตนุ [ เจ้าชาตา ] + อริ [ การบริการ ] … กุม ๘ พันธุ [ เพศสัมพันธ์ ] … ๓ + ๘  =  กิจกรรมทางเพศ …
 
 
… อยู่ราศีธนูภพกฎุมภะ [ ทรัพย์สินเงินทอง ] … ดาว ๕ เจ้าเรือนไปอยู่ที่ราศีพฤษภ ภพปัตนิ [ ลูกค้าประจำ , อุดหนุน ] 
 
 กุม ดาว ๒ ศุภะ [ ความสุข ,ที่พึ่ง ] … ดาว ๒ ตำแหน่งอุจจ์ [ มาก ]  + ดาว ๕ กฎุมภะ  [ เงิน ] + ปุตตะ  [ การเอาใจใส่ ]
จุลจักร  [ เชื่องช้า ,นุ่มนวล ,อ่อนน้อมถ่อมตน ] …
 
… ๒ + ๕   =  ด้วยรักและผูกพัน …
 
… แปลว่า จากการเอาใจใส่ และนอบน้อมถ่อมตน ทำให้ลูกค้าพากันมาอุดหนุนอยู่เป็นประจำจึงทำให้มีรายได้สูง …
 
 
… ทำไมเธอจึงเป็นผู้หญิงหากินชั้นสูง …
 
 
… ก็ไม่แปลกอะไร ! … ในเมื่อ ดาว ๐ พันธุ หมายถึง สถานที่ทันสมัย … โยคหน้าดาว ๒ ศุภะ [ สภาพ ] อุจจ์ [ โอ่อ่า ] …
 
 ๘ พันธุหมายถึง ใหญ่โต …
 
… ในเมื่อที่ทำงานของหล่อนเป็นสถานที่โอ่อ่า ทันสมัยและใหญ่โต บุคลิกภาพของเธอก็ย่อมจะต้องดูดีและมีสง่าราศี
 
ตามสถานที่ไปด้วยโดยปริยาย …
 
 
  
            … อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม …
 
 
 
… ในโครงสร้างเรื่องของแต่ละดวงชาตา คำแปลอาจแตกแขนงออกไปได้ในเรื่องราว ผิดแผกแตกต่างกันไป เช่นตนุแปล
 
ว่า เจ้าชาตา , อนาคตของบุตรคนโต , เพื่อนของเพื่อน , สามีของภรรยาเรา , ความเป็นปึกแผ่นของงาน , รายได้ของเพื่อน
 
ภรรยาของบุตรคนที่ ๒ ฯ จิปาถะ ที่จะแปล … นักโหราศาสตร์ทุกท่านควรที่จะต้องหาความหมายจากภพต่างๆให้ชำนาญ
 
ก็จะเกิดทักษะกับตนเองได้ในภายภาคหน้า … 
 
 
… สวัสดีครับ …
 
 
… อ.ธนเทพ ปฏิพมพาคม …
 

กลไกโหราศาสตร์

… แสงในดวงจักรวาฬ … 

โดย ท่าน อ.ดำริห์ ไตรรัตน์ …
 
 
 
… เป็นภาพที่แสดงถึงแสงในดวงจักรวาฬ ที่เป็นเกษตร ๒ เรือน คือ …
 
… จากราศีมิถุน ดาว ๔ แสงส่งไปถึงราศีกันย์เรือนดาว ๔ เช่นกัน …
 
… จากราศีพฤษภ ดาว ๖ แสงส่งไปที่ราศีตุลย์เรือนดาว ๖ เช่นกัน … 
 
… จากราศีเมษ ดาว ๓ แสงส่งไปที่ราศีพฤศจิกเรือนดาว ๓ เช่นกัน …
 
… จากราศีมีน ดาว ๕ แสงส่งไปที่ราศีธนูเรือนดาว ๕ เช่นกัน …
 
… จากราศีกุมภ์ ราหูและ ดาว ๗ แสงส่งไปที่ราศีมังกรเรือนดาว ๗ เช่นกัน …
 
 
… ดังนั้นถ้ามีดาวดวงอื่นที่ไม่ใช่เจ้าเรือนมาอยู่ในแสงและรังสีดังกล่าวมาแล้วนี้ …
 
… จัดว่าดาวมีกำลังถึงกันได้อย่างแน่นอน …
 
 
 
 
 
 
… จากตัวอย่างที่ ๑ … มีดาว ๑ และดาว ๒ …
 
… จากดาว ๑ อยู่ราศีเมษเรือนดาว ๓ ดังนั้นแสงย่อมส่งไปที่ราศีพฤศจิกเรือนดาว ๓ ด้วย …
 
… และแสงย่อมส่องไปที่ราศีสิงห์เรือนของตนด้วยเช่นกัน …
 
… จากราศีเมษไปราศีพฤศจิก เรียกกันว่าแฝงเรือนเกษตร …
 
… จากราศีเมษไปราศีสิงห์เรียกว่า ส่งแสงไปที่เรือนของตนเอง …
 
 
 
… จากดาว ๒ อยู่ราศีมีนเรือนดาว ๕ ดังนั้นแสงก็ต้องส่องไปที่ราศีธนูเรือนดาว ๕ ด้วบ …
 
… และแสงก็พุ่งไปที่ราศีกรกฏเรือนของตนด้วยแน่นอน …
 
… ส่วนจากราศีมีนไปที่ราศีธนูก็เรียกว่าแฝงเรือนเกษตรเช่นเดิม …
 
… จากราศีมีนไปราศีกรกฏ เรียกว่าส่งแสงไปที่เรือนตนเอง …
 
 
 
 
 
 
 
… จากตัวอย่างที่ ๒ … มีดาว ๓ และดาว ๔ …
 
 
… จากดาว ๓ ที่อยู่ราศีกุมภ์เรือนดาว ๗ แสงจึงส่งไปที่ราศีมังกรเรือนดาว ๗ ด้วย …
 
… และแสงก็ส่องไปที่ราศีเมษและราศีพฤศจิกเรือนของตนเองอีกด้วย …
 
… จากราศีกุมภ์ไปที่ราศีมังกรเรียกว่าดาวแฝงเรือนเกษตร …
 
… จากราศีเมษไปราศีพฤศจิกเรียกว่า ส่งแสงไปที่เรือนของตน …
 
 
… จากดาว ๔ อยู่ราศีเมษเรือนดาว ๓ แสงจึงส่องไปที่ราศีพฤศจิกเรือนดาว ๓ ด้วย …
 
… และยังส่องแสงไปที่ราศีมิถุนกับราศีกันย์เรือนแห่งตนเช่นกัน …
 
… จากราศีเมษไปที่ราศีพฤศจิกเรียกว่า แฝงเรือนเกษตร …
 
… จากราศีมิถุนไปราศีกันย์เรียกว่า ส่องแสงไปที่เรือนตน …
 
 
 
 
 
 
 
… จากตัวอย่างที่ ๓ … มีดาว ๕ + ๖ และดาว ๗ + ๘ …
 
 
… จากดาว ๕ ที่ราศีเมษส่งแสงแฝงเรือนเกษตรไปที่ราศีพฤศจิก เรือนดาว ๓ เช่นกัน …
 
… และยังส่งแสงไปที่ราศีมีนและราศีธนูเรือนของตนเช่นกัน …
 
… ดาว ๖ ที่ราศีมิถุนส่งแสงแฝงเรือนเกษตรไปที่ราศีกันย์เรือนดาว ๔ เช่นกัน …
 
… และก็ส่องแสงไปที่ราศีพฤษภและราศีตุลย์เรือนแห่งตนเองอีก …
 
 
 
… จากดาว ๗ ที่ราศีเมษส่งแสงแฝงเรือนเกษตรไปที่ราศีราศีพฤศจิกเรือนดาว ๓ …
 
… และยังส่งแสงไปมี่ราศีมังกรเรือนของตนเองอีกด้วย …
 
… ราหู อยู่ที่ราศีเมษส่งแสงแฝงเรือนเกษตรไปที่ราศีพฤศจิกเรือนดาว ๓ …
 
… แล้วก็ส่งแสงไปที่ราศีกุมภ์เรือนแห่งตนด้วยเช่นกัน …
 
 
 
 
 
 
 
 
… ต่อไปนี้เป็นแสง + รังสีในดวงกำเนิด …
 
 
… จากตัวอย่างที่ ๔ มีดาว ๓ + ๑ และดาว ๕ + ๑ …
 
 
… จากดาว ๓ ที่ราศีเมษ ส่งแสงไปที่ราศีพฤศจิกเรือนดาว ๓ เหมือนกัน …
 
… จากดาว ๑ ส่งรังสีไปที่ราศีสิงห์เรือนแห่งตน …
 
… เท่ากับว่าดาว ๓ แฝงรังสีจากดาว ๑ ไปที่ราศีสิงห์ด้วย …
 
 
… จากดาว ๕ ที่ราศีเมษ ส่งแสงไปที่ราศีธนูเรือนดาว ๕ เหมือนกัน …
 
… จากดาว ๑ ส่งรังสีไปที่ราศีสิงห์เรือนของตนเอง …
 
… เท่ากับว่าดาว ๕ แฝงรังสีจากดาว ๑ ไปที่ราศีสิงห์นั้นด้วย …
 
 
 
 
 
 
 
 
… จากตัวอย่างที่ ๕ มีดาว ๔ + ๕  …
 
 
… จากดาว ๕ ที่ราศีเมษ ส่งแสงไปที่ราศีพฤศจิกเรือนดาว ๓ ด้วยเหมือนกัน …
 
… จากดาว ๕ ที่ราศีเมษก็ยังส่งแสงไปที่ราศีมีนและราศีธนูเรือนของตนเอง …
 
… จากดาว ๔ ส่งรังสีไปที่ราศีมิถุนและราศีกันย์เรือนแห่งตน …
 
… เท่ากับว่า ดาว ๕ แฝงรังสีจากดาว ๔ ไปที่ราศีมิถุนและราศีกันย์ตามไปด้วย …
 
 
 
 
 
 
 
… เรื่องราวกลไกโหราศาสตร์ระบบแสงและรังสีเป็นภาพที่ผมจำมาจากหนังสือโหราเวสม์
 
ตอนที่ออกมาฉบับแรกๆ แต่คำอธิบายนั้น …ผมเขียนขึ้นมาเองตามความเป็นจริงของดวง
 
ดาว เพราะคำอธิบายของท่าน อ. ดำริห์ ไตรรัตน์ จริงๆนั้นผมจำไม่ได้ จึงขอโทษมาในที่นี้
 
ด้วยนะครับ …
 
 
 
… สวัสดีครับ …
 
 
… อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม …