RSS

Daily Archives: August 12, 2013

กว่าจะมาเป็นโหรตอนที่ ๒

กว่าจะมาเป็นโหร ตอน ที่ ๒

     เกร็ดย่อยๆก็คิอ…ในช่วงแรกของการเรียนรู้โหราศาสตร์…ผมซื้อหนังสือที่เกี่ยวกับโหร…จนหมดร้าน…เขษมบรรณากิจ…
{ ค่อยๆซื้อนะครับ…ทีละ๑๐๐๐ – ๒๐๐๐…จนบางครั้งวันเดียว ๗๕๐๐บาท…ทีเดียวครับ }
บางทีก็มีเงินซื้อเอง…บางทีพี่สาวก็ช่วยออกเงินซื้อให้…หรือว่าบางครั้ง…เพือนๆผมที่มีสตางค์ก็ให้ตังค์มามาซื้อเอง…ครับ…เลยรู้สึกว่า…ตัวเราเองนี่ค่อนข้างจะเฮงเอามากๆนะครับ…หนังสือโหราศาสตร์…ในบางอาจารย์…ไม่มีขายในท้องตลาดครับ…ต้องไปซื้อด้วยตนเองหรือ…สั่งทางไปรษณีย์เช่น ของ อ.จำรัส ศิริ…
 อ.สถิตย์ สถิตยืนยง…และ อ.เสวก นิ่มวงศ์ ฯลฯ…
…ตอนที่ ๒ วิถีชีวิตของการเป็นโหร…
     หลังจากการจากไปของบิดา…ผมก็เกิดความรู้สึกว่า…ทุกสิ่งทุกอย่างใน
โลกเรานี้…ล้วนแต่เป็นอนิจจัง…ทุกขัง…อนัตตา…
หาความแน่นอนอะไรไม่ได้…คิดไปคิดมา…พอคิดตกก็ตรงดิ่งไปที่บ้านคุณพ่อ
ทันทีแล้วก็เข้าไปในห้องสมุดค้นหนังสือโหราศาสตร์ของคุณพ่อได้มา ๓ เล่มคือ…
๑. พื้นฐานของโหราศาสตร์ ความมหัศจรรย์ของตัวเลข…ของอ.พลูหลวง
๒. ตำราโหรทายหนู ของ อ.ประทีป อัครา
๓. เคล็ดลับกลไกโหราศาสตร์ของ อ.มหาบรรเทา…
พอได้หนังสือทั้ง ๓ เล่มก็รีบเดินทางกลับบ้านผมในทันทีทันใดไม่รอช้า…
     หลังจากวันนั้นผมก็เริ่มศึกษาวิชาโหราศาสตร์จากหนังสือคุณพ่อทั้ง ๓ เล่มนั้นอย่างขมักเขม้น กล่าวคือพอกินข้าวเย็นเสร็จประมาณ ๑๙.๐๐ น.ก็ขึ้นไปที่ห้องพระ…ปิดประตูแล้วก็เริ่มลงมือศึกษาค้นคว้า…อย่างจริงจัง…จนถึง ๑๐.๐๐ น.เช้าวันรุ่งขึ้น เป็นเวลา ๒ ปีเ็ต็ม…อย่างเอาเป็นเอาตาย…
ในเวลา ๓ วัน ผมสามารถท่องจำ ดวงดาวมาตราฐานเช่น ดาวเกษตร ดาวอุจจ์ ดาวราชาโชค…
ดาวมหาจักร ฯลฯ ได้จนขึ้นใจ…นอนหลับตาก็เห็นภาพดวงดาวต่างๆลอยอยู่เต็มไปหมด…
พอจำดวงตำแหน่งมาตราฐานได้ ก็ต้องมาทำความเข้าใจกับ ยามอํฐกาล หรือความหมายของดวงดาวต่างๆอีกมากมาย…จนหัวตื้อไปหมด…
     เพราะการเริ่มเรียนรู้โหราศาสตร์นั้น ขั้นแรกจะต้องเข้าใจความเป็นมาของดวงดาวทั้งหมดมีทั้งดาวคู่มิตร ดาวคู่ศัตรู คู่ธาตุ คู่สมพล…ตอบว่าเพียบแหละครับ แต่ถ้าให้ดีควรท่องโคลงกลอนของโหราศาสตร์ให้ได้ก่อนอันดับแรก…ทำความเข้าใจกับดวงดาวต่างๆ เพราะความรู้นั้นเกิดความเข้าใจ…ไม่ใช่การท่องจำ…แต่ว่าก็เป็นสิ่งที่แปลกประลาดเกิดขึ้นกับผม…กล่าวคือ ในระยะที่ผมเริ่มศึกษาโหราศาสตร์ไปซักพัก…กลับมีคนข้างบ้านหรือเพื่อนบางคน…มาให้ผมดูดวงให้อยู่เป็นจำนวนมาก แถมให้เงินค่าบูชาครูอย่างน้อยคนละ ๑๐๐ บาทเป็นอย่างน้อย….
     ซึ่งตอนนั้นผมก็รู้สึก…กระอักกระอ่วนใจอยู่พอสมควรในการที่ต้องดูดวงคน …โดยที่เราก็พึ่งศึกษาวิชานี้เป็นระยะเวลาแรกเริ่มเท่านั้น…ในตอนนั้นประมาณ ๖ เดือนหลังจากที่ได้ศึกษาโหราศาสตร์…ผมได้ไปที่ร้านเขษมบรรณากิจ…ที่เวิ้งนครเกษมไปซื้อหนังสือโหราศาสตร์ตามปกติวิสัย…พอดีนึกขึ้นมาได้เลยได้ถาม…
เจ้าของร้านถึงเบอร์โทรของ…อ.พลูหลวง…ทางเจ้าของร้านกับคุณพ่อผมสนิสนมกันอยู่แล้ว…แกจึงบอก…เบอร์โทร อ.พลูหลวงให้ผมมา…
     พอกลับถึงบ้านผมก็รีบโทรไปหา…ท่าน อ.พลูหลวงทันที…ท่านเป็นคนรับสายเองผมก็บอกกับท่านว่าผมได้เบอร์ท่านมาจากเจ้าของร้านเขษมบรรณากิจอยากจะถามท่านว่าผมสามารถที่จะเรียนโหรได้ดีหรือไม่?…
ท่านก็ตอบว่า”คุณเป็นคนราศีอะไรละ?”…ผมก็ตอบว่า”ผมเป็นคนราศีพิจิกครับ…
มีเกตุกุมลัคน์…มี หนึ่ง สี่ หก…เล็งลัคน์…ราหูเป็นเกษตรอยู่เรือนพันธุ…
เล็งดาวจันทร์ที่เรือนกัมมะ…
เสาร์เป็นอุจาวิลาศอยู่ที่ราศีกันย์เรือนลาภะ…อังคารเป็นประอยู่ที่เรือนวินาศ…
ที่ราศีตุลย์…มฤตยูอยู่เรือนมรณะ…ส่วนพฤหัสเป็นราชาโชคอยู่ที่ราศีเมษ…ครับ”
ท่านถามว่า”แล้วเนปจูน พลูโต แบคคัสอยู่ที่ไหนละ?”…
     ผมตอบว่า ” เนปจูนอยู่ที่กัันย์…พลูโตกับแบคคัสอยู่ที่กรกฏ…ครับ “
     ท่านก็ตอบมาว่า”คุณเป็นคนที่มีญาณในการทำนาย…เรียนรู้ได้รวดเร็ว…
มีความสนใจในศาสตร์ลึกลับ…สามารถเป็นโหรได้…”
เท่านั้นแหละครับ…ใจผมมาเป็นกอง…นึกในใจว่า…ลุย…
แล้วท่านยังแนะนำให้ผมไปซื้ออุปกรณ์ในการดูดวง…จาก อ. มานิตย์…
เป็นโปรแกรมโหรอยู่ในเครื่องคิดเลข…หรือโปรแกรมโหรที่ใช้กับคอมพิวเตอร์…
ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานผมก็ไปซื้อที่ อ.มานิตย์…ทั้ง ๒ โปรแกรมๆละ ๕๐๐๐ บาท…
รวม ๒ โปรแกรม…๑๐๐๐๐ บาท…พอดี…มึนไปเลย…!
คุยกับท่านอยู่ประมาณ ๒๕ นาที… มีประโยชน์กับผมอย่างมหาศาล…มากในตอนนั้น…
 

กว่าจะมาเป็นโหร

ชีวประวัติ อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม

…ผมชื่อ ธนเทพ ปฏิพิมพาคมเกิดเมื่อ วันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๕ …
                   …บิดาชื่อ  พล.ต.ท.ชัยยงค์ ปฏิพิมพาคม…
                    …มารดาชื่อ นางอุษา ศรีดามา…
                    …ครอบครัวของผมมีทั้งหมด ๕ คน…
                    …คนที่ ๑. นางนงเยาว์ ทรัพย์ประดิษฐ์
                               ๒. นางพิมประไพ จันทร์สืบ
                               ๓. นายมงคล ปฏิพิมพาคม
                               ๔. นางแน่งน้อย ศรีดามา
                               ๕. อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม
   …ผมเป็นลูกชายคนสุดท้อง…ในตระกูล ได้รับการตามใจมาแต่เยาว์วัย
จนน่าที่จะเสียผู้เสียคนแต่ด้วยเมื่ออายุได้ ๕ ขวบ…
  บิดาได้อบรมสั่งสอนโดยการ ให้ลูกๆทุกคนก่อนที่จะเข้านอนให้ไป
รวมตัวกันที่ห้องพระ…ในนั้นจะมีหนังสือสวดมนต์อยู่ด้วย…
คุณพ่อก็จะบอกให้ทุกคนสวดมนต์พร้อมกันหลังจากสวดมนต์เสร็จสรรพ
 ก็จะให้ทุกคนนั่งทำสมาธิกันประมาณ ๕-๑๐ นาที…
ให้หลับตา สำรวมจิตนึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่ตั้งแล้วให้
ภาวนา พุทโธ ตามลมหายใจเข้า-ออก…
ซึ่งพฤติกรรมทั้งหลายนี้ ให้ทำทุกค่ำคืนเป็นนิจศีล…
     …ผมจึงคิดว่า ด้วยกุศลบุญที่ได้ปฏิบัติธรรมมาตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้ผม
ไม่ได้ตกอยู่ในอบายมุขใดๆ…มาจนตราบเท่าทุกวันนี้…
 ในวัยเด็ก ผมเติบโตมาท่ามกลางความอบอุ่นจาก บิดาและมารดา
ซึ่งคอยดูแลเอาใจใส่ผมเป็นอย่างดี [ น่ารักมาก ] ตั้งแต่เยาว์วัย…
                  …ตราบจนกระทั่งแตกเนื้อหนุ่ม…
                  …ในช่วงนี้จะเป็นประวัติของผมที่ว่า…
…กว่าจะมาเป็นโหรให้ทุกท่านได้รับฟัง ณ.บัดนี้…
                 …ในตอนที่ ๑. เรื่อง การจากไปของบิดาข้าพเจ้า…
…พล.ต.ท.ชัยยงค์ ปฏิพิมพาคม…

ตอนปี ๒๕๓๗ ปลายๆปี…ขณะนั้น ผมยังเล่นดนตรีอยู่เป็นประจำ…
เกิดความรู้สึกอยากศึกษาเกี่ยวกับการดูดวง…
ในตอนแรกๆก็หัดดูไพ่ยิปซี ซึ่งตอนนั้นกำลังเป็นที่นิยมกันผมก็ซื้อหนังสือ
ของอ.ต่างๆที่เกื่ยวกับไพ่ยิปซี..มาอ่านอยู่หลายเล่มด้วยกัน…

ดูไปดูมายังรู้สึกสับสนอยู่มาก…ก็เลยไปหาซื้อตำรากร๊าฟ เลข ๗ตัวฯลฯ
มาลองศึกษาดู…หัดทายเพื่อนๆและญาติ…
ไปเรื่อยก็ยังไม่ประสพกับความสำเร็จใดๆ…ทายถูกบ้าง ผิดบ้าง…
   …จนรู้สึกเริ่ม…ท้อแท้…หาความแน่นอนอะไรจากตัวเองไม่ได้…
…จนค่อยๆรามือลงไป…ในที่สุด…
     จนกระทั่งมาถึงปี ๒๕๓๘…ระยะนั้นคุณพ่อผมอาการไม่ดีต้องนอนอยู่ที่
ร.พ. ตำรวจผมก็ไปเยี่ยมท่านอยู่เป็นประจำ…บางทีก็ถามคุณพ่อเกี่ยวกับเรื่องโหราศาสตร์…ซึ่งท่านเคยศึกษามาอยู่ก่อนแล้วแต่ท่านก็บอกว่า…
ตอนนี้ท่านจำอะไรไม่ได้แล้วเกี่ยวกับวิชาโหราศาสตร์…มันลืมไปแล้วหมดสิ้น…
ผมก็เข้าใจท่านไม่ได้ถามท่านอีกต่อไป…ตัวคุณพ่อผมเองเดิมทีสามารถทาย
ดวงชาตาได้อยู่ในขั้นไม่ธรรมดาเพราะเคยเห็นบรรดาญาติๆ และมิตรสหาย…
มาให้ท่านดูดวงกันอยู่เป็นประจำ…
     ในเดือนมีนาคม ๒๕๓๘ คุณพ่ออาการไม่ค่อยดี…
มีปัญหาหมอลงความเห็นว่าควรจะต้องผ่าตัดซึ่งจะต้องปรึกษากับบรรดา
ญาติก่อน…ตอนนั้นผมก็คิดอะไรไม่ออก…
พอคิดออกมาได้ก็รีบไปที่หน้าวัดบวรทันที…ในสมองสั่งงานว่าต้องไปดูดวง
ให้คุณพ่อจะดีกว่าที่หน้าวัดบวรจะมีชมรมโหราศาสตร์อยู่…
มี…อ.หมอดูอยู่หลากหลาย…เมื่อไปถึงที่นั่นผมก็ตรงไปหา อ.ผู้หนึ่งบอก…
วัน เดือน ปีเกิดและชื่อของคุณพ่อให้ อ.ดูดวง…ให้…
พอเห็นชื่อคุณพ่อ อ.ท่านนั้นก็จำได้…หลังจากตรวจดวงชาตาคุณพ่อ
เสร็จก็กล่าวว่า “ท่านอายุยืนผ่าตัดได้…ไม่มีปัญหาอะไรครับ”ผมได้ฟัง…
ใจก็มาเป็นกองรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก…
     พอกลับมาถึงบ้าน…คุณแม่และพี่ๆของผมได้ลงความเห็นกันแล้วว่าต้อง
ยอมให้หมอ…ผ่าตัดคุณพ่อในตอนนั้น…
ผมก็เสริมไปอีกว่า ไปดูดวงมาแล้ว…อ.หมอ บอกว่าผ่าตัดได้เลย ไม่มีปัญหา…
ทุกคนก็มีสีหน้าดูดีขึ้น…คือเลิกเครียดกัน…หลังจากวันนั้น…
ในวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๓๘ได้พาคุณพ่อไปผ่าตัดที่ ร.พ.กรุงเทพพอเช้าวันที่ ๒
หมอก็ลงมือผ่าตัดคุณพ่อ…
เสร็จสรรพหลังผ่าตัด มีคุณหมอท่านหนึ่งเดินมาเยี่ยมคุณพ่อ…แล้วกล่าวว่า
“ผลการผ่าตัดครั้งนี้ เป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่งครับ”
ทุกคนได้ฟังแล้ว…ก็รู้สึกคลายใจกันไปทุกคน…แต่แล้ว…อย่างไม่คาดฝัน
ในตอนเที่ยงๆของวันที่๔ มีนาคม ๒๕๓๘ พี่สาวได้โทรศัพท์มาหาผมแล้วบอกว่า
” เอ็ก คุณพ่อ อาการไม่ดีรีบมา ร.พ. ด่วน “
เท่านั้น ผมก็รีบไป ร.พ. อย่างรวดเร็ว…ทันที…
     ที่หน้าเตียงคุณพ่อ…ห้อมล้อมไปด้วยครอบครัวของผม…
พวกเราเวียนกันเข้าออกดูอาการของ…คุณพ่อ…
จนกระทั่งถึงเวลา ๑๙.๐๕ น.คุณหมอได้เข้ามาถามบรรดาญาติๆว่าจะให้ดึง
สายยางออกจากตัวคุณพ่อไหม? พวกเราก็บอกไปว่า…ไม่ต้อง…ให้ท่านจากไป
โดยตามธรรมชาติ…ดีกว่าหลังจากนั้นพวกเราก็ยืนห้อมล้อมรอดูการจากไป
ของท่านอย่างสงบ…พอถึงเวลา๑๙.๔๕ น.คุณพ่อก็ได้จากพวกเราไป…
อย่างไม่มีวันกลับ…จะไม่ได้พบพานกันอีกตลอดกาล…ในชาตินี้…
…ติดตาม กว่าจะมาเป็นโหรตอน ๒…