RSS

Daily Archives: August 20, 2013

ดวงแฝดคนละฝา

 

..ดวงหญิงเกิด วันที่ ๙ พ.ค.๒๕๔๔ เวลา ๗.๔๒ – ๗.๔๘ น.กรุงเทพ…

…เป็นเด็กหญิงฝาแฝด แต่เป็นประเภท แฝดคนละฝา หน้าไม่เหมือนกันนัก แค่ใกล้เคียงกัน
บิดาแยกกับมารดาตั้งแต่ตอนอายุได้ ๔ ขวบ อยู่กับมารดาที่บ้านของคุณทวด [แม่ของตา ]
เด็กฝาแฝด ๒ คนนี้นิสัยแตกต่างกัน คนพี่ [คลอดทีหลัง ] นิสัยเหมือนเด็กผู้ชาย หน้าตาคมเข้ม
คนน้อง [คลอดออกมาก่อน ]…
นิสัยอ่อนหวาน นุ่มนวล ช่างเจรจา  คนพี่หน้าจะละม้ายคล้ายกับคุณตา  คนน้องหน้าตาจะไปทาง…
คุณยาย…แฝดทั้งสองสนใจเกี่ยวกับดนตรี…

…ผมต้องขออธิบายหลักครู…ที่ดูว่าใครเป็นพี่ และใครเป็นน้องก่อนอื่น…กล่าวคือ…
…ทางวิชาโหราศาสตร์ ว่าไว้ว่า…คนคลอดออกมาคนแรกเป็น คนน้อง คนคลอดทีหลังเป็น คนพี่…
…ซึ่งเมื่อสมัยก่อนก็ไม่รู้ที่มาของเรื่องนี้ เพียงแต่เชื่อถือในตำราโหราศาสตร์ ที่สืบทอดต่อๆ กันมา
…แต่ในปัจจุบันวงการแพทย์ยืนยันเรื่องตามนี้คือ…ไข่คนแรกจะอยู่ที่ด้านบน ส่วนไข่ใบที่สองจะอยู่
ใต้ลงมาจากไข่ใบแรก…เวลาคลอดไข่ใบที่สองจะคลอดออกมาก่อนเพราะอยู่ใต้ไข่ใบแรก…
…ซึ่งก็ตรงตามหลักวิชาที่กล่าวไว้แต่แรก…และก็มีวิธีแยกว่า คนพี่ – คนน้องอยู่ราศีไหนในดวงชาตา
…ดาวอะไรเป็นดาวประจำตัว…

…ให้นับที่ภพปุตตะ [ราศีกันย์ ] เป็นแฝดคนน้อง…และนับภพปัตนิ [ราศีพฤศจิก ] เป็นแฝดผู้พี่
…ที่นับแบบนี้เพราะ…
…ให้ตั้งภพปุตตะ [น้อง ] เป็นลัคนาขึ้นมาใหม่…นับต่อไปที่ภพสหัชชะ [ราศีพฤศจิก ]
…ก็จะเป็นภพของ…พี่สาวตนเอง…
…ดังนั้นแฝดพี่ดาวประจำตัวก็คือดาว ๓ [กล้าแข็งขยันทายอังคาร ]
…แฝดน้องดาวประจำตัวก็คือดาว ๔ [ เจรจาอ่อนหวานทายพุธ ]
…ดังนั้นก็ไม่แปลกใจอะไรอีกที่แฝดพี่ จะหน้าตาคมขำนิสัยเหมือนเด็กผู้ชาย ตามลักษณะดาว ๓
…แฝดน้องนิสัยอ่อนหวาน ช่างพูดช่างเจรจา ตามลักษณะของดาว ๔ …

…วิจารณ์ดวงแบบรวบรัด…
…ทำใมบิดาถึงจากไปตอนอาย ๔ ขวบ
…ให้ดูืี่ภพพันธุ [พ่อ ] ที่ราศีสิงห์ ดาว ๑ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีเมษภพ วินาสน์ [จากไป ]
…ดาว ๓ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีธนูภพ มรณะ [จากเป็น – จากตาย ไม่กลับมา ]
…อ่านว่า…พันธุ + วินาสน์ + มรณะ
…แปลว่า…พ่อได้จากไปไม่กลับมา…
…ที่ว่า ๔ ขวบ นั้น…ให้นับ ๑ ขวบที่ลัคนา…
…นับ ๒ ขวบที่ภพกฎุมภะ [ ราศีมิถุน ]
…นับ ๓ ขวบที่ภพสหัชชะ [ราศีกรกฏ ]
…นับ ๔ ขวบที่ภพพันธุ [ราศีสิงห์ ]
…แสดงว่าตอนอายุ ๔ ขวบ เกี่ยวกับเรื่องพ่อที่ต้องจากไปไม่กลับมา…
…พ่อจากไปเพราะอะไร? …
…ดาว ๑ หมายถึงพ่อ อยู่ที่ราศีเมษ ทำมุมอริ – มรณะกับดาว ๒ หมายถึงแม่ ที่ราศีพฤศจิก…
…แปลว่า…พ่อมีเรื่องขัดแย้งกับแม่…
…ดาว ๒ อยู่พฤศจิกเรือนดาว ๓ ซึ่งดาว ๓ ไปตรีโกณกับ ดาว ๑ [พ่อ ]
…เรื่องชู้สาว…๒+๓ …
…นับราศีเมษที่ดาว ๑ [พ่อ ] สถิตอยู่ ตั้งเป็นลัคนา ดาว ๑ เป็นเจ้าเรือนปุตตะ [ความรักใหม่ ]
…ภพปัตนิที่ราศีตุลย์ ดาว ๖ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีมีนภพวินาสน์ [แอบซ่อน ปิดบัง ] …
…แปลว่าพ่อมีเด็กใหม่แม่จับได้ก็เลยต้องแยกทางกัน…

…อยู่กับแม่ที่บ้านคุณทวด [แม่ของตา ]
…ตั้งลัคนาใหม่ที่ราศีมังกรภพศุภะ  [แม่] นับไปถึงราศีเมษภพพันธุ [พ่อ ของแม่ ]
…ตั้งลัคนาที่ราศีเมษ นับไปถึงราศีกรกฏภพพันธุ [แม่ของตา ]
…ตั้งลัคนาที่กรกฏเป็นคุณทวด [ แม่ของตา ] นับไปถึงราศีตุลย์ภพพันธุ [บ้าน ทวด ]
…ดาว ๖เจ้าเรือนภพพันธุของคุณทวดไปอยู่ราศีมีนภพลาภะ จากลัคนาราศีพฤษภ [ เจ้าชาตา ]
…ดาว ๕ เจ้าเรือนไปกุมลัคน์ ดาว ๖ เจ้าเรือนลัคน์สลับเรือนเกษตรกับดาว ๕ ภพลาภะเป็น
…เกษตรเทียม…ซึ่งมีดาว ๗ เจ้าเรือนภพ ศุภะ [ แม่ ] กุมลัคน์อยู่ด้วย กับดาว ๔ เจ้าเรือน
…ภพกฎุมภะ [ ได้มา ] + เจ้าเรือนภพปุตตะ [ตั้งแต่เด็ก ] กุมอยู่ที่ลัคนาราศีพฤษภ [เจ้าชาตา ]
…แปลว่ามาอยู่กับแม่ที่บ้านคุณทวด…ตั้งแต่ตอนเด็กๆ …

…คนพี่หน้าจะละม้ายคล้ายคุณตา…
…ตั้งลัคนาที่ราศีมังกรภพ ศุภะ [แม่ ] ราศีเมษจะเป็นภพพันธุ [คุณตา ] ดาว ๓ เป็นคุณตา
…คนพี่ก็เป็นดาว ๓ เหมือนกัน…แปลว่าหน้าเหมือนคุณตา…

…คนน้องหน้าไปทางคุณยาย…
…ตั้งลัคนาที่ราศีมังกรภพ ศุภะ [แม่ ] ราศีกันย์จะเป็นภพ ศุภะของแม่คือเป็นภพ ศุภะ [ คุณยาย ]
…เจ้าเรือนยายคือดาว ๔ …คนน้องเป็นดาว ๔ …แปลว่าหน้าเหมือนคุณยาย…

…ฝาแฝดทำไมชอบดนตรี…
…ตอบไม่ยาก…ดาว ๖ ตนุลัคน์รวมทั้ง ๒ คนเป็นดาวแห่งศิลปินอยู่แล้วไปอยู่ราศีมีนภพ
…ลาภะ …[ ความสำเร็จ ] สลับเรือนกับดาว ๕ เป็นมหาเกษตร [ สลับเรือนกันไม่หยุด ]
…ดาว ๖ เป็นอุจจ์ [มาก ] เรือนลาภะ [ ชอบ ] …แปลว่าทั้งคู่ชอบเล่นดนตรีมาก…
…ลองทบทวนอ่านกันหลายๆเที่ยวครับจึงจะเข้าใจ ใหม่ๆอาจจะมึนไปหน่อย
…อ่านไปอ่านมาหลายๆ ครั้ง…
…คงจะเข้าใจได้ไม่ยากนัก [ถ้าพยายามหลายๆเที่ยว ] …ตังผมเองก็เริ่มมึนแล้วจบก่อนดีกว่า…

…ไว้พบกันใหม่ในบทเรียนหรือบทความในครั้งต่อไปกันนะครับ…สวัสดี…

 

ดวงมหาเศรษฐี

 

 

   
…ดวงชาตานี้เกิดเมื่อวันที่ ๒๒ ม.ค. ๒๔๙๑ เวลา ๑๙.๒๕ น.กรุงเทพฯ ลัคนาสถิตราศีสิงห์ เสวยฤกษ์ที่ ๑๑…ปุรพผลคุณีแห่งมหัธโนฤกษ์…[ ดวงชาตาชาย ] รูปดวงได้ลักษณะดอกพิกุล…ถ้ามีดาวเนปจูนอยู่ที่ราศีกันย์…
…จะครบตามลักษณะดอกพิกุลเต็ม ๑๐๐%เลยทีเดียว…ถ้ามองดูตามที่ท่าน อ.ส.ไชยนันท์กล่าวไว้…
ก็จะได้รูป…มงกุฏเพชร…ทันที…นับว่าเป็นดวงที่มีวาสนาสูงเยี่ยมดวงหนึ่ง…เกิดมาสุดแสนสบาย ไม่ต้องทำงานอะไร…
…ก็มีเงินล้นฟ้า…เพราะมี…ทรัพย์สิน…เงินทอง…ที่ดิน…สมบัติสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ…
…ดวงในราศีจักรมีอยู่ ๑๒ เรือนแต่สามารถแตกแขนงจาก ๑ เรือนไปเป็น ๑๒ เรือน…๑๒ คูณ ๑๒ = ๑๔๔ เรือน…ดังนั้นในราศีจักรสามารถดูเรื่องราวมนุษย์ได้ ๑๔๔ เรื่อง…ดังนั้นคำที่เรียกกันว่า”ดวงอีแปะ”เห็นว่าไม่ควรจะใช้…เรียกอีกแล้ว…ควรจะเรียกว่า”ดวงพิสดาร”มากกว่าซะอีก…แถมยังสามารถเอาลัคนาโลกมา+กับลัคนาคนได้อีก…
…ลัคนาโลก[ ดวงโลก ] ก็คือ…ตั้งจากราศีเมษเป็นลัคนา…ดังนั้นถ้ามีคนมาถามว่า”ลูกคนที่ ๒ ของสามีคน
ที่ ๔เมื่อไร?
…จะได้พบกัน?…”ลูกคนที่ ๔…งานของบุตรคนโตฯลฯปัญหาเหล่านี้ตอบได้หมดครับ…จากโหราศาสตร์ไทยเรานี่แหละ…ถ้าฝึกจนชำนาญรับรองแแม่นยำตามกฏเกณฑ์แน่นอน
…ลองมาทดลองดูกัน...
…ดาว ๑ ตนุลัคน์ไปกุมอยู่กับดาว ๔ กฤุมภะ+ลาภะมีดาว ๒ มหาอุจจ์ตรีโกณและมี…ดาว ๕ โยคหลังซึ่งดาว ๕…
…นอกจากเป็นมหาจักรแล้วยังได้ตำแหน่งเป็น…พฤหัสสี่ทรงศักดิ์แช่มช้อย… [ ปทุมเกณฑ์ ] อีกด้วย…
…ถ้าอ่านผสมกับดวงโลก ดาว๑ ตนุ=ตนุ+ปุตตะและ ดาว๑ ตนุไปอยู่ราศีมังกรเรือนอริ+กัมมะของโลก…รวมกันอ่านว่า…
 
…ตนุ+ปุตตะ+อริ+กัมมะ แปลว่า…ตัวเองตั้งแต่วัยเด็กจนถึงสูงวัยไม่เคยทำงานเลย
… [ ดาว ๑ อยู่เรือน ๗ = ๑=เด็ก ๗ = แก่ ]
…ดาว ๑ กุม ดาว ๔ กฤุมภะ+ลาภะ แปลว่าเกิดมาก็คาบช้อนเงินช้อนทองมาด้วยแล้ว…
 
…ทีนี้เรามาสืบสาวราวเรื่องดูว่า ดาว ๔ นั้นมาจากไหน?…
…ราศีสิงห์เรือนศุภะ[ พ่อ ]และพันธุ[ แม่ ] มีดาว ๓ เป็นเจ้าเรือนอยู่ทั้ง ๒ เรือน ดูกันไม่ชัด คลุมเครือ
…ต้องดูที่เรือนพ่อ…ตั้งตนุอยู่ที่ราศีพฤศจิก เรือนแม่…มองดูตรงกันข้ามราศีพฤษภกัมมะเป็นปัตนิ [คู่]ของแม่…
…เพราะฉะนั้นราศีพฤษภจึงเป็นเริอนตนุของพ่อทันที…
…จากเรือนตนุของพ่อเรือนราศีมิถุนก็ต้องเป็นเรือนกฤุมภะของพ่อ…ดาวเจ้าเรือนคือดาว ๔ …ซึ่งดาว ๑ ตนุกุมอยู่ด้วย…ก็เงินของพ่อนั่นเอง…คราวนี้เรามาดูตนุตัวที่ ๒ ของพ่อก็คือ…
…จากราศีพฤษภ…เรือนตนุ=พ่อ…ดาว ๖ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีกุมภ์…ตั้งเป็นตนุตัวที่ ๒ ของพ่อได้เลย…จากเรือนตนุกฤุมภะ…ก็คือราศีมีน มีดาว ๕ เป็นเจ้าเรือนกฤุมภะ…และดาว ๕ ก็ไปอยู่เรือนพันธุจากลัคนา…
…แสดงว่าเงินของพ่อตัวที่ ๒ ก็ไปอยู่เรือนพันธุของลัคนา  [ เรือนอสังหาริมทรัพย์ ]…
แต่จากดวงเดิมดาว ๕ คือเจ้าเรือนมรณะมาอยู่ที่เรือนพันธุ=มรณะ+พันธุแปลว่า…
มีฐานะมั่นคงที่ได้มาจากมรดกของบรรพบุรุษ…ดาว ๕ ก็คือกฤุมภะจากดาว ๖ ตนุตัวที่ ๒ ของพ่อนั่นเอง…
 
...ตอนนี้เราลองมาตั้งจากดาว ๑ ตนุที่ราศีมังกรเป็นลัคนาใหม่…ราศีกันย์ก็คือเรือนศุภะ[พ่อ]ของตนุดาว ๑ …
ที่มังกร…ดาว ๔ เป็นเจ้าเรือน…ตั้งที่ราศีกันย์เป็นเรือนตนุของเรือนพ่อ…ราศีตุลย๋ย่อมเป็นเรือนกฤุมภะของพ่อ…คือดาว ๖…ซึ่งดาว ๖ ก็ไปอยู่เรือนกฤุมภะของดาว ๑ ทันที…แปลว่าทรัพย์สินเงินของพ่อก็มาตกมาเป็นสมบัติของตนเอง…
 
…ที่นี้เรามาดูเรือนพันธุ[สมบัติพ่อ]ของพ่อปรากฎว่าดาว ๕ไปเป็นลาภะที่ราศีพฤศจิกของดาว ๑ ตนุลัคน์ก็เท่ากับแปลว่า…ทรัพย์สมบัติของพ่อก็มาเป็นรายได้ของลูก…ใช่เลย…ยังไม่พอจากดาว ๑ ตนุตัวที่ ๑ อยู่ที่ราศีมังกร…เราก็ตามไปดู…ดาว ๗ เจ้าเรือนคือ ตนุตัวที่ ๒ ไปอยู่ราศีกรกฏ…ตั้งเป็นลัคนาขึ้นมาอีก ทีนี้ราศีมีนก็เป็นเรือนศุภะ [ เรือนพ่อ ] ของดาว 
…๗ ตนุตัวที่ ๒…ตั้งลัคนาพ่อขึ้นมา ราศีเมษย่อมเป็นเรือนกฤุมภะของลัคนาพ่อ…ก็คือดาว ๓ เป็นเจ้าเรือน…
…ซึ่งก็ไปอยู่ที่เรือนกฤุมภะของดาว ๗ ตนุตัวที่ ๒ ที่ราศีสิงห์เท่ากับว่าเงินของพ่อก็มาเป็นเงินของตนเองอีก…ยังมีอีก…
…จากดาว ๗ ตนุตัวที่ ๒ อยู่ที่ราศีกรกฏ…ดาวเจ้าเรือนคือดาว ๒ ไปอยู่ที่ราศีพฤษภ…ตั้งที่นี่เป็นลัคนาของตนุตัวที่ ๓…
…ราศีมังกรย่อมเป็นเรือนศุภะ[เรือนพ่อ]ของดาว ๒ ตนุตัวที่ ๓ …ทันที…ดังนั้นราศีกุมภ์ย่อมที่จะเป็นเรือนกฤุมภะของ…เรือนพ่อที่ราศีมังกรอย่างแน่ชัด…ดาว ๐ เจ้าเรือนไปอยู่ราศีมิถุน…ก็เป็นเรือนกฤุมภะของดาว ๒ ตนุตัวที่ ๓…
…อีกแล้ว…แปลว่าทรัพย์สินเงินทองของพ่อก็มาเป็นของตนเองอีกครั้ง…ไม่หนีไปไหนเลย…
 
…คราวนี้มาดูที่ดาว ๕ ซึ่งได้ตำแหน่งปทุมเกณฑ์ว่ามีความเป็นมาแบบใด…ดาว ๕ เป็นเจ้าเรือน ปุตตะ+มรณะมาตกที่…
…เรือนพันธุ…อ่านว่าไปเรียน [ดาว ๕ โยคหลัง ๑+๔ การเรียนในวัยเยาว์] ต่อที่ต่างประเทศตั้งแต่เยาว์วัย…
…ที่ประเทศฝรั่งเศษ…[ดาว ๓ เจ้าเรือนศุภะ…ต่างประเทศเล็งดาว ๖ ฝรั่งเศษเจ้าเรือนกัมมะสถิตอยู่ที่เรือนปัตนิ]…
…ถ้าจะดูให้ชัดขึ้น…ตั้งลัคนาจากดาว ๑ ที่ราศีมังกร เรือนกัมมะและเรือนปุตตะก็คือดาว๖อีกซึ่งหมายถึงการเรียนใน…
…วัยเด็กที่ประเทศฝรั่งเศษ…จนได้แหละครับ…
 
…ในกรณีฉุกเฉิน…ถ้าคนมาดูดวง…ไม่มีเวลาเกิด…สามารถดูดวงชาตาจากลัคนาโลกได้ครับ…
 
…ตอนนี้เราลองมาอ่านดวงดาวจากลัคนาโลก[ราศีเมษ]…ล้วนๆได้ดังนี้คือ…
…ตนุลัคน์ ดาว ๓ ไปตกเรือนปุตตะ…ราศีสิงห์…
…ดาว ๑ เจัาเริอนปุตตะไปตกเรือนกัมมะ ราศีมังกร…
…ดาว ๗ เจ้าเรือนกัมมะไปตกเรือนพันธุ…ราศีกรกฏ…
…ดาว ๒ เจ้าเรือนพันธุไปตกเรือนกฤุมภะ…ราศีพฤษภ…
…ดาว ๖ เจ้าเรือนกฤุมภะไปตกเรือนลาภะ…ราศีกุมภ์…
…ราหู เจ้าเรือนลาภะไปตกเรือนตนุ…ที่ราศีเมษ…ตกลงเราจะหยุดลงแค่นี้ก่อน…
…เรียงเรือนต่างๆได้ดังนี้…
…ตนุ+ปุตตะ+กัมมะ+พันธุ+กฤุมภะ+ลาภะ+ตนุ…
 
…เจ้าชาตาตั้งแต่เด็ก[ดาว ๑ ]จนโตมาเป็นผู้ใหญ่[ดาว ๗]…ไม่ได้ทำงานที่ไหนเลย…เพราะบรรพบุรุษมีมรดกตกทอดสืบเนื่อง
กันมาช้านาน…เป็นล่ำสันอยู่แล้ว…เจ้าชาตาเก็บกินดอก…เก็บค่าเช่าที่และรวมทั้งทรัพย์สินมรดกในธนาคาร…ก็มีพอใช้ไปทั้ง
ชาตินี้ ไม่มีวันอับจนอย่างแน่นอน…เมื่อยามละสังขารไปแล้ว…ก็ยังมีทรัพย์สินเลี้ยงดูบุตร…หลาน…เหลนไปได้อีกหลายชั่วคน…
 
…แต่ก็อีกแหละครับ…มนุษย์เราไม่ว่า…คนมั่งมี…คนยากไร้…ล้วนต้องมีทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้นตามสภาพของแต่ละบุคคล…
…ดูเรื่องความรักและครอบครัวของดวงชาตานี้…จากลัคนาราศีสิงห์ก็มีดาว ๖ เล็งเข้าเกณฑ์พินทุบาทเข้าอีกลองขับดู…
จากตนุตัวที่ ๑…คือดาว๑ ที่ราศีมังกรก็มีดาว ๗ เล็งเข้ากฏภินทุบาทอีก…ตามไปดูตนุตัวที่ ๒ ที่ราศีกรกฏก็มีดาว ๔…
…เจ้าเรือนวินาศเล็งอยู๋…ดาว ๖ อยู่ที่ราศีกุมภ์ก็เป็นมรณะกับดาว ๗ ตนุตัวที่ ๒ ซะอีกดาว ๕ เจ้าเรือนอริก็มาตรีโกณร่วม
…ธาตุอีก…แถมยังมี ดาว ๓ กับดาว ๐ บีบหน้า-หลังอยู่อีก…ดาว ๗ นี้ไม่รู้จะไปทางไหนเลยนี่…ดาว ๒ ตนุตัวที่ ๓ หนีไป
…เป็นอุจจ์ที่ราศีพฤษภก็ไม่รอด…โดนดาว ๕ ซึ่งเดิมเป็นเจ้าเรือนอริอยู่…แปลงร่างกลายเป็นเจ้าเรือนมรณะเข้าไปอีก…
…ส่วนดาว ๖เจ้าเรือนที่ดาว ๒ อุจจ์อาศัยอยู่ก็วิ่งไปอยู่เรือนมรณะของดาว ๗ อีก…เลยไม่รู้จะหนีไปไหนรอดเลย…แบบนี้
…บอกได้ว่าเรื่องครอบครัวและเรื่องคู่ครอง…ปวดหัวแน่นอน…ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง…ครับ…วุ่นวายตลอดชีวิต…
 
…ตามประวัติที่แท้จริงของเจ้าชาตา…เป็นลูกชายผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ ตอนเด็กๆไปเรียนที่ประเทศ…ฝรั่งเศษ…จวบจน…เป็นหนุ่มใหญ่จึงได้กลับมาเมืองไทย…มีภรรยาหลายคน…แต่ไม่ลงตัว…ปวดหัวตลอด…มีแล้วก็เลิกอยู่หลายคน…ส่วนงานไม่ต้องพูดถึง ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น…มีข้าเก่าเต่าเลี้ยงทำแทนให้โดยตลอด…ไปไหนพกสตังค์ไปไม่กี่พันบาท…มี
…รายการจ่ายอะไร…กินเสร็จเดินลุกไปเลย…มีคนคอยจัดการดูแลให้โดยตลอด…เรื่องเก็บค่าที่…ค่าตึกแถวในตลาดฯลฯ
…มีคนงานจัดการให้ทั้งสิ้น…เจ้าชาตาดื่มเหล้าบางๆทั้งวัน-ทั้งคืน…มีเหล้าเตรียมพร้อมข้างๆตัวตลอด…แกมีพี่สาวอยู่คนหนึ่ง…อยู่ในอาณาเขตเดียวกันแต่มีคนละบ้านอยู่ใกล้ๆกัน…เมื่อหลายปีก่อนขายที่ดินแถวๆหัวหินขายไปเล่นๆได้มา……๑๐๐ ล้านแบ่งกับพี่สาวคนละ ๕๐ ล้าน…ส่วนสุขภาพหัวเข่าแกไม่ดี[๗ เป็นประ=หัวเข่า]มีโรคหัวใจเป็นโรคเรื้อรัง…
…[ ๑ =หัวใจอยู่เรือนอริลัคน์]…ส่วนรื่องชอบดื่มเหล้านั้นเพราะ ๘ =เหล้า อยู่เรือนศุภะแปลว่า…ฝักไฝ่…เจ้าเรือนศุภะ …
…ดาว ๓ ยังมากุมลัคน์้อีก…๓ ตรีโกณ ๘ มี๒ อุจจ์นำหน้า ๘=คนชอบดื่มเหล้า …
29---Use-logo
 
… วันนี้พอก่อนนะครับ…สรุปดวงชาตานี้เป็นมหาเศรษฐีเป็นคนดีของสังคม … เป็นคนที่มีน้ำใจต่อมิตรสหายทั้งปวง …

…โอกาสหน้าพบกันใหม่ครับ … สวัสดี …

… อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม …

 
 

ยามอัฏฐกาล

 

…สำหรับผู้ที่มีพื้นฐานในโหราศาสตร์…
…ดวงที่เห็นด้านบนนี้เป็นดวงยามกาลชาตาตั้งแต่เวลา ๒๑.๐๐ ถึง ๒๒.๓๐ น.ในวันอาทิตย์
…ผมต้องขออธิบายเรื่องยามเวลาก่อนกล่าวคิอ…
…ใน ๑ วันมี ๑๖ ยาม
…แบ่งเป็นยามกลางวันทั้งหมด ๘ ยาม…โดยแบ่งเป็นยามละหนึ่งช.ม.ครึ่ง…
 …และยามกลางคืนทั้งหมด ๘ ยาม…โดยแบ่งเป็นยามละหนึ่งช.ม.ครึ่งเช่นกัน…
 
…จัดเป็นสูตรยามกลางวันได้ดังนี้คือ …
วันอาทิตย์  ๑   ๖    ๔   ๒  ๗   ๕   ๓   ๑
วันจันทร์     ๒   ๗   ๕   ๓   ๑   ๖   ๔   ๒
วันอังคาร   ๓    ๑   ๖   ๔   ๒   ๗   ๕   ๓
วันพุธ         ๔   ๒   ๗   ๕   ๓   ๑   ๖   ๔
วันพฤหัส    ๕   ๓   ๑   ๖   ๔   ๒   ๗   ๕
วันศุกร์       ๖   ๔   ๒   ๗   ๕   ๓   ๑   ๖
วันเสาร์      ๗   ๕   ๓   ๑   ๖   ๔   ๒   ๗
 
… ผมจะขออธิบายการแบ่งยามในวันอาทิตย์กลางวัน …
ยามที่ ๑ เป็นยามดาวอาทิตย์   ตั้งแต่เวลา ๖.๐๐ น.ถึง ๗.๓๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๒ เป็นยามดาวศุกร์        ตั้งแต่เวลา ๗.๓๑ น.ถึง ๙.๐๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๓ เป็นยามดาวพุธ          ตั้งแต่เวลา ๙.๐๑ น.ถึง ๑๐.๓๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๔ เป็นยามดาวจันทร์     ตั้งแต่เวลา ๑๐.๓๑ น.ถึง ๑๒.๐๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๕ เป็นยามดาวเสาร์       ตั้งแต่เวลา ๑๒.๐๑ น.ถึง ๑๓.๓๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๖ เป็นยามดาวพฤหัส     ตั้งแต่เวลา ๑๓.๓๑ น.ถึง ๑๕.๐๐  น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๗ เป็นยามดาวอังคาร    ตั้งแต่เวลา ๑๕.๐๑ น.ถึง ๑๖.๓๐ น. เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๘ เป็นยามดาวอาทิตย์   ตั้งแต่เวลา ๑๖.๓๑ น.ถึง ๑๘.๐๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
…สังเกตุดูดีๆจะเห็นได้ว่ายามที่ ๑ กับยามที่ ๘ ของทุกวันจะเหมือนกัน…ในทุกวัน…
…อีกประการหนึ่งก็คือ…ถ้าท่องหัวใจยามวันอาทิตย์ได้ก็สามารถรู้ยามในวันต่อไปได้โดยอัตโนมัติ……ส่วนในวันอื่นๆก็ใช้ดาวประจำวันเป็นตัวตั้งต่อไป…
 
…หัวใจยามกลางวันคือ…๑   ๖   ๔   ๒   ๗   ๕   ๓   ๑
 
 
…จัดเป็นสูตรยามกลางคืนได้ดังนี้คือ…
 
วันอาทิคย์  ๑   ๕   ๒   ๖   ๓   ๗   ๔   ๑
วันจันทร์     ๒   ๖   ๓   ๗   ๔   ๑   ๕   ๒
วันอังคาร    ๓   ๗   ๔   ๑   ๕   ๒   ๖   ๓
วันพุธ         ๔   ๑   ๕   ๒   ๖   ๓   ๗   ๔
วันพฤหัส    ๕   ๒   ๖   ๓   ๗   ๔   ๑   ๕
วันศุกร์        ๖   ๓   ๗   ๔   ๑   ๕   ๒   ๖
วันเสาร์       ๗   ๔   ๑   ๕   ๒   ๖   ๓   ๗
…ผมจะขออธิบายการแบ่งยามในวันอาทิตย์กลางคืน …
ยามที่ ๑ เป็นยามดาวอาทิตย์       ตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น.ถึง ๑๙.๓๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๒ เป็นยามดาวพฤหัสบดี   ตั้งแต่เวลา ๑๙.๓๑ น.ถึง ๒๑.๐๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๓ เป็นยามดาวจันทร์         ตั้งแต่เวลา ๒๑.๐๑ น.ถึง ๒๒.๓๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๔ เป็นยามดาวศุกร์           ตั้งแต่เวลา ๒๒.๓๑ น.ถึง ๒๔.๐๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๕ เป็นยามดาวอังคาร       ตั้งแต่เวลา ๒๔.๐๑ น.ถึง ๐๑.๓๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๖ เป็นยามดาวเสาร์          ตั้งแต่เวลา ๐๑.๓๑ น.ถึง ๐๓.๐๐  น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๗ เป็นยามดาวพุธ            ตั้งแต่เวลา ๐๓.๐๑ น.ถึง ๐๔.๓๐ น. เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
ยามที่ ๘ เป็นยามดาวอาทิตย์     ตั้งแต่เวลา ๐๔.๓๑ น.ถึง ๐๖.๐๐ น.เป็นเวลาหนึ่งช.ม.ครึ่ง
 
 …หัวใจยามกลางคืนคือ…๑   ๕   ๒   ๖   ๓   ๗   ๔   ๑   
 
…เมื่อคืนวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่ผ่านมาผมนั่งเล่นอยู่บนบ้าน…ทันใดนั้นผมก็ได้บินเสียงระเบิดดังกึกก้อง
ขึ้นมาอย่างฉับพลัน…ก้มมองดูนาฬิกาเป็นเวลา ๒๑.๓๕ น.ตกยามที่ ๓ เป็นยามดาวจันทร์…ซึ่งจากลัคนาโลกตกเป็น …
เรือนพันธุ…ความหมายถึง บ้าน รถยนต์ ที่ดิน…ดังนั้นเสียงระเบิดที่ได้ยินนั้น…ย่อมเกิดมาจากรถยนต์ยางแตกทันที …
ผมรีบหยิบฉวยดินสอแล้วรีบเขียนดวงยามในวันนั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว…[เป็นดวงยามตามด้านบนสุดที่ลงไว้]…
…ผมขออธิบายอีกซักเล็กน้อยคือ…
เวลาในตอนนี้เป็นยามที่ ๓ ของวันอาทิตย์กลางคืน…คือหนึ่งช.ม.ครึ่ง…ใน ๑ ราศี…
จุดเวลามีอยู่ ราศีละ ๗ นาที ๓๐วินาที จุดเวลาอยู่ไม่เกิน ๒๑.๓๗.๓๐ น.ตกราศีมีน…
ในตอนนั้นลัคนาอยู่ในราศีกรกฏ …
เท่ากับอ่าน …ได้ว่า …
๑.ดาวพฤหัส- ศุภะ+อริ ตกพันธุ+พันธุ แปลได้ว่า…เกิดปัญหากับสภาพความมั่นคงของรถยนต์
๒.ดาวเสาร์-ปัตนิอุจจ์ ตกพันธุ แปลว่า…อย่างฉับพลันและรุนแรงกับความมั่นคงของรถยนต์
๓.ราหู – ยางรถยนต์เจ้าเรือนมรณะตกปัตนิ แปลว่า… ยางรถยนต์เกิดความเสียหายอย่างจังๆหน้า
๔.ดาวอังคารเป็นอุจจ์เจ้าเรือนกัมมะ+ปุตตะตกปัตนิ แปลว่าเจ้าตัวที่กระทำเรื่องคือของมีคม[ตะปู] เบอร์ 7 ขนาด 3 นิ้ว… ๓ อยู่เรือน ๗ … ๓=กัมมะ + ปุตตะ =สิ่งที่ทำให้เกิดขึ้น
            [ อังคาร – ตะปู + อยู่เรือนเสาร์ – กุม ๘ – ยางรถยนต์ ] อย่างไม่คาดคิด-ปัตนิ [ ๓ = ตะปู ๘ = ยางรถยนต์ ] …
            ๕.ดาวอาทิตย์กฤุมภะตกวินาศ+ตกตนุ+ปุตตะ แปลว่าความเสียหายที่้เกิดขึ้นกับคนขับรถ
…ได้ใจความรวมๆออกมาว่า…ระหว่างการขับขี่ยวดยานอยู่นั้นรถได้ไปทับตะปูคอนกรีต เบอร์ 7 ขนาด 3 นิ้ว เกิดระเบิดจากยางแตก…ทำให้รถทรงตัวไม่อยู่…ต้องเบรคและค่อยๆจอดรถลงในที่สุด …โดยที่คนขับปลอดภัย …
…๒ ตรีโกณ๔ ได้คู่มิตรทำให้คนขับปลอดภัย …
…๓ – ตะปูกุม ๘ – ยางรถยนต์คู่ธาตุทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นมาอย่างไม่ทันได้คาดคิดมาก่อน…
…๓ ส่งกำลัง ๔ ไปที่เรือนกัมมะและส่งกำลัง ๘ ไปที่เรือนกฤุมภะ…ซึ่งเจ้าเรือนกฤุมภะก็ไปตกเรือนวินาศและไปตกเริอนตนุและไปตกเรือนปุตตะในที่สุด …
…ซึ่งเมื่อผมลงไปถามไถ่ผู้คนที่ประสพเหตุการณ์นี้ก็ตอบตามที่ผมได้กล่าวไปแล้วทั้งหมดทุกประการ …
… [ ที่เกิดเหตุมีการก่อสร้างอยู่ ] …
… อนึ่งผู้ใดอยากจะศึกษาวิชานี้โดยตรงให้ไปซื้อหนังสือชื่อว่า “ตำราโหรทายหนู” เรียบเรียงโดยปรมาจารย์ ประทีป อัครา …
… น่าจะมีขายอยู่ที่หน้าวัดบวรนิเวศ…เรื่องราวที่ผมเขียนขึ้นมาเกิดมาจากความมหัศจรรย์ของตำราโหรทายหนูทั้งสิ้น …

… ยามซอยแบ่ง …

       ดี ยามต้น     [ ปฐม ]
๑ , ๒  ดี ยามกลาง   [ มัชฌิม ] หรือ มัธยม
๓ , ๖  ดี ยามปลาย   [ อวสาน ] หรือ ปัจฉิม
๔ , ๗  ดี ทั้งยามกลาง และยามปลาย
การใช้ยามอัฐกาล ทำนาย เรื่องข่าว การเจ็บไข้ ของหาย การเดินทาง 

… หัวใจยาม …
ยาม ๑ , ๔ , ๗ 


ถามเรื่องที่ได้ยินมา

เรื่องจริง เชื่อถือได้

ถามเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย

๑ จะตายภายใน ๑ นาที – ๑ ช.ม. – ๑ วัน
๔ จะตาย [ รักษายาสมุนไพร มีโอกาสรอด ]
๗ จะตาย หรือต้องรักษากันยาวนานมาก

ถามของหาย

๑ จะได้คืน ของอยู่ที่สูง ใกล้กับสีแดง ๆ มีแสงสว่างแวววาว
๔ จะได้คือ อยู่แถวตู้เสื้อผ้า กองกระดาษ เครื่องมือสื่อสาร ในครัว หรือต้องถามหาจากคนในบ้าน อาจมีผู้เก็บไว้ให้ …
๗ จะได้คืน อยู่ที่มืด ๆ สีดำ ๆ ของสกปรก ท่อ ระบายน้ำ เตาไฟ ถ่าน ถังขยะ …

 

… เรื่องยามนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เวลาคนมาถามว่า คนเจ็บเป็นยังไงบ้าง ? ถึงขั้นสูญเสียไหม? สูญเสียเมื่อไร? อะไรทำนองนี้ละ ! … ถ้าหัวใจยามบอกว่า ตายแน่ ๆ ผมก็จะตอบแบบเลี่ยงๆไปว่า … ให้ระวังภายใน ๑ ช.ม. – ๑ วัน หรือ ๑ อาทิตย์ [ แล้วแต่อาการมาก – น้อย ] … อาจ ….. ถึงขั้นสูญเสีย … จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทายเรื่องตายไม่เคยผิดแม้แต่เพียงครั้งเดียว [ ห้ามถามเล่นๆ ] … แม้กระทั่งดูหนังดูละครถ้าสงสัยอยากรู้ว่าพระเอกหรือผู้ร้ายจะตายหรือไม่ตาย ก็สามารถทายได้ถูกอย่างเหลือเชื่อ

… สวัสดีครับ …

… อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม …