RSS

Daily Archives: August 17, 2013

ดวงชาตาจอมพล

 

    …สติถิดวงชาตา ของ ท่าน อ.พลูหลวง……บุรุษท่านนี้เคยเป็นบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดในรัฐบาลมาก่อน…ในอดีตที่ผ่านมาทำคุณงามความดี
ต่อประเทศชาติ คือได้สร้างทางหลวงสายต่าง ๆ ทั่วประเทศหลายสาย สร้างเขื่อน อาทิเช่น…
เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนอุบลรัตน์… นอกจากนี้ท่านยังได้ทำการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยทัดเทียม
กับนานาประเทศ และในปี พ.ศ.๒๕๐๘ ได้ส่งทหารไปร่วมรบในสงครามเวียตนามด้วย…

…แต่ต่อมาก็ถูกพลังทางการเมืองหลายฝ่าย กดดันให้ลาออกจากตำแหน่งในที่สุด หมดพลังอำนาจ ต้องหลบลี้ หนี ภัย ไปอยู่ในต่างถิ่นต่างแดน…

…ชาย เกิดวันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๔ เวลาเกิด ๑๒.๒๕ น. จังหวัดตาก…

… ราศีตุลย์ …

 

142.ดวงจอมพลถนอม

 

…โยคเกณฑ์ …

๑.ดาว พฤหัสบดีกุมลัคน์ นระราศี เป็นองเกณฑ์ …

๒.ดาวได้โยค มีมฤตยูโยคหน้า พุธโยคหลัง และยังได้ตรีโกณอีกด้วย …

๓.เป็นดวง ดอกพิกุล คือมีดาวกุมลัคนา แล้วโยคไปตามลำดับ ไม่ขาดตอน ดาวพฤหัสบดีกุมลัคน์…
ดาวโยคไปตามลำดับคือ มฤตยู  จันทร์  อังคาร  เสาร์  ราหู  พลูโต  พุธ …

วิจารณ์ …

๑.ดาวดอกพิกุลให้คุณ ในด้าน มีพรรคพวก เพื่อนฝูงมาก มีผู้นับหน้าถือตาทั่วๆไป …

๒.ดวงนี้มีบาปเคราะห์ อังคาร  เสาร์  ราหู ๓ ดวง เล็งลัคนาอย่างเต็มที่ เป็นลางบ่งให้เห็นว่า ศัตรู
มุ่งร้ายมีพลังรุนแรง เมื่อพลาดท่าเสียทีก็จะต้องหักโค่นลงทันที ในกลุ่มดาวบาปเคราะห์ ๓ ดวงนั้น
มีดาวเสาร์ ปุตตะของดาว ศุกร์ตนุลัคน์รวมอยู่ด้วย หมายถึงอำนาจนั้นมาจากเด็กๆ …

๓.ดาวพฤหัสบดี อันเป็นดาวครูกุมลัคนา ในชีวิตของท่านได้เคยเป็นครูสอนวิชาแผนที่กับนักเรียนทหารอยู่หลายปี…

๔.มฤตยูเจ้าแห่งการเดินทาง โยคหน้าลัคนา ทำให้ท่านซึ่งเป็นผู้รวมอำนาจใว้เป็นเวลานาน ต้อง
เดินทางไปต่างแดน ไปประชุมหรือดูงานบ่อยๆ …

๕.ดาวอาทิตย์ลอยเหนือศรีษะกลางฟ้าขณะเกิด ท่านจึงมักจะไว้ตัว และแสดงท่าทางองอาจให้กระฉับกระเฉงอยู่เสมอ อันผิดกับอุปนิสัยส่วนลึกซึ่งชอบความสงบ ด้วยดาวศุกร์ตนุลัคน์เป็นนิจ
อยู่ในภพวินาศนะ ลักษณะเช่นนี้ บ่งถึงว่าเป็นคนสองอารมณ์ หรือสองบทบาท บทบาทของดาว
อาทิตย์นั้นจะต้องเด่น ยิ่งมีดาวเนปจูนอันเป็นดาวฝูงชนกุมอาทิตย์อยู่ด้วย ทำให้ต้องอยู่ในที่แวดล้อมของคนหมู่มาก…ต้องออกชุมชนอยู่เสมอ บทบาทของศุกร์นิจในภพวินาศนะ ส่วนลึก …
ของจิตใจนั้นเป็นคนอ่อนแอ และชอบมุมสงบเงียบๆของชีวิต  จะว่าเป็นดวงที่ถูกเขาเชิดก็ใช่ที่ …
ตามลักษณะดวงชาตาบ่งว่า มีความพอใจในฐานะที่ถูกเขาเชิดด้วย หรือทำจริงๆแต่ดูคล้ายถูกเขา
เชิดอยู่เบื้องหลังอย่างใดอย่างหนึ่ง …

๖.ดาวอังคารกฎุมพะ  มีเสาร์ราหู กุมอยู่เป็นข้อเสียอย่างร้ายแรง เจ้าชาตาจึงถูกอำนาจกฏหมายมาตราพิเศษที่เคยเคยเล่นงานคนอื่นๆมามาก ย้อนกลับมาเล่นงานตนเอง โดยถูกยึดทรัพย์จนหมดสิ้น …

… ต่อไปนี้เป็นบทขยายความของคำวิจารณ์ …

ดาว ๕ ที่กุมลัคน์ นระราศีได้ องค์เกณฑ์ …

องค์เกณฑ์นระ ได้แก่ ลัคนาที่มิถุน ลัคนาที่กันย์ ลัคนาที่ตุลย์  ธนู และลัคนาที่กุมภ์ …

มีโคลงกลอนองค์เกณฑ์ดังนี้ …

นระสุริยะเรื้อง                    รังสี
โสระชีวะโดยมี                  ถูกต้อง
สามองค์เทพโสภี              กุมลัคน์
ดวงชาตาใดพรั่งพร้อม      ยศนั้นนาพัน

…กฎขององค์เกณฑ์นระคือ…ถ้ามีดาว ๑ ดาว ๗ และดาว ๕ ทั้ง ๓ ดวงที่กล่าวมากุมลัคน์ จะได้…
ยศถาบรรดาศักดิ์ เทียบเท่ากับนาพันไร่…ถ้าเป็นในสมัยปัจจุบันก็ต้องตีความกันว่า บุคคลใดที่ได้องค์เกณฑ์นี้ จะสามารถสร้างชื่อเสียงและทรัพย์สมบัติได้ด้วยสติปัญญา และความสามารถของตนเอง …

ดาวโยคก็คือ…ดูจากลัคนามองไปข้างหน้า ๒ ราศีมีดาว ๐ อยู่เรียกว่า “ดาว มฤตยูโยคหน้า “แล้วหันไปมองข้างหลังมีดาว ๔ อยู่เรียกว่า”ดาวพุธโยคหลัง”
…เท่ากับว่า ลัคนามีดาวโยคหน้าที่ราศีธนูเรือนสหัชชะ [ญาติ พี่ีน้อง เพื่อน] และโยคหลังที่ราศีสิงห์
เรือนลาภะ [โชคลาภ ] …

โยคแปลว่า … ช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน ให้ความร่วมมือ สนับสนุน …
…ตรี[๓ ] โกณ [มุม]…ตรีโกณแปลว่า ๓ มุม ตามภาษาเลขาคณิต คือ มีดาวอยู่ทั้ง ๓ มุม…
…ดูที่ลัคนามีดาว ๕  ๙ …ดูที่ราศี ธนู [ธาตุไฟ ปลายธาตุ] มีดาว ๐ ดูที่ ราศีเมษ [ธาตุไฟ แม่ธาตุ]มีดาว ๓ ๗ ๘ …ดูที่ราศีสิงห์ [ธาตุไฟ กลางธาตุ] มีดาว ๔ อย่างนี้เรียกว่าดาวทำมุมตรีโกณ [เกื้อกูล] ซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือกัน…หรือเรียกว่า…ร่วมธาตุเดียวกัน พวกเดียว เป็นญาติกันฯลฯ

… ดาวดอกพิกุล…หมายถึง ดาวที่โยค [ช่วยเหลือ] กันรอบดวงชาตา [ราศีจักร] ดังนี้คือ …
… เริ่มจากลัคนา มีดาว ๕ ๙ โยคหลังไปที่ ดาว ๓ และดาว ๓ โยคหลังไปที่ ดาว ๒ ส่วนดาว ๒ นั้น
ก็โยคหลังไปที่ดาว ๓ …จากดาว ๓ โยคหลังดาว พลูโต ส่วนดาวพลูโตก็โยคหลังไปที่ดาว ๔ ส่วน
ดาว๔ ก็โยคหลังไปที่ดาว ๕ และเกตุ ครบรอบราศีจักร …

… ส่วนข้อ ๒…ที่ว่ามีดาวเสาร์ ปุตตะของดาว ศุกร์ตนุลัคน์รวมอยู่ด้วย หมายถึงอำนาจนั้นมาจากเด็กๆ

ก็ให้ดูที่ดาว ๖ ตนุลัคน์ [เจ้าชาตา]ไปอยู่ราศีกันย์เป็นวินาศนะลัคน์ …
ให้้ตั้งลัคนาขึ้นมาใหม่ที่ราศีกันย์นั่นแหละ…นับไปที่ราศีมังกร เรือนปุตตะ [คนอ่อนวัย เด็ก ] ดังนั้น
ดาว ๗ จึงเป็นปุตตะของดาว ๖ ตนุลัคน์ [เจ้าชาตา ]…
ดาว ๗ไปอยู่ราศีเมษเรือนมรณะ [เดือดร้อน วุ่นวาย] และดาว ๓ เจ้าเรือนมรณะก็เป็นเกษตร
อ่านว่า ๖ ตนุลัตน์+๗ ปุตตะ+๓มรณะ เป็นเกษตร์ไม่ไปไหน …
แปลว่า…เจ้าชาตาจะต้องเดือดร้อนอย่างสาหัสจากกลุ่มเด็กเยาวชน ที่รวมตัวกันขึ้นมาขับไล่ตนเอง
ออกจากตำแหน่งในรัฐบาล…ที่ว่ากลุ่มเพราะ ๗  [เด็ก ] กุม ๘  [การรวมตัว] ที่เรือนมรณะ[จากไป]
…เรือนปุตตะ นอกจะแปลว่าเด็ก แล้วก็แปลว่า บุตร ด้วย ดังนั้นบุตรจึงทำร้ายตัวเจ้าชาตาด้วย …

ดาว ๕ มีความหมายถึงครูบาอาจารย์ …ให้ดูไปที่ราศีสิงห์เรือนลาภะ [ลาภผล] โยคหลังช่วยเหลือ
อยู่…ดาว ๔ มี ๒ ตำแหน่งคือ เป็นมหาจักร [ ผู้เชี่ยวชาญ] และราชาโชค [เจราจามีศิลปะ ] …
ดาว ๔+๕ เป็นคู่แห่งสติปัญญา…จึึงทำให้เป็นครูบาอาจารย์ …ดาว ๕ เล็งไปที่ราศีเมษ …
เจอดาว ๓+๗+๘ [ ตำรวจ+ทหาร ]
…ท่านจึงได้เคยเป็นครูสอนวิชาแผนที่กับนักเรียนทหาร อยู่หลายปี …

ดูที่ดาว ๐ [เดินทาง]มีดาว ๒ เจ้าเรือนกัมมะ [งาน] โยคหน้าอยู่…แล้วดาว ๒ ก็ไปโยคหลังดาว ๓ …
เจ้าเรือนปัตนิ [ บ่อยๆ] ดาว ๓ กุมดาว ๗ เจ้าเรือนพันธุ [หน้าที่] และราหูเจ้าเรือนปุตตะ [มีการเกิดขึ้น]
…แปลได้ว่า…เจ้าชาตามีหน้าที่การงานที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่เป็นประจำ บ่อยๆ …

 

99

 

… อันที่จริงสามารถทำนายดวงดาวได้อีกในหลายมุมมอง ฯลฯ มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมาก
… วันนี้คิดว่าคงต้องยุติลงก่อน พบกันอีกในบทเรียน สถิติโหร ในบทความตอนต่อไปนะครับ สวัสดีครับ …

… อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม …

 

สูตรผสมดาวอาทิตย์

 

 

สูตรผสมดาวอาทิตย์

สูตรผสมดาวอาทิตย์

 

 

…ในบทเรียนนี้จะเป็นหลักสูตรเกี่ยวกับการผสมดวงดาว…ถอดระหัสความหมายที่ผสมกันของดวงดาวมาเป็นสูตรผสมดาวเพื่อที่จะแปลความหมายต่างๆออกมาเป็นรูปธรรม…

…เรามาเริ่มกันตั้งแต่ ดาว ๑ เป็นอันดับแรก…
 
                                         …ดาวอาทิตย์…
 
…๑.อาทิตย์ เป็นดวงดาวที่มีความร้อนสูงสุด เป็นประธานแห่งจักรวาล เรื่องราวของดวงอาทิตย์ส่วนใหญ่เรื่องของความร้อนแรง พลังงาน…สิ่งที่มีเกียรติ์ระดับสูงเช่น กษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี ประธานสภา องค์มนตรี บิดา บุตรชาย ร่างกาย ชีวิต โลหิต หัวใจ…ถ้าเกี่ยวกับความสว่างแจ่มใสได้แก่ ไฟ ไฟฟ้า แสงสว่าง นัยน์ตา ทองคำ ถ้าเกี่ยวกับวัตถุก็จะเป็นวัตถุที่สูงศักดิ์เช่น…เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตราประจำตำแหน่ง ป้ายอาญาสิทธิ์ฯลฯ…
…ความหมายหลักก็คือ…เกียรติ์ อำนาจ สิทธิ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ความยุติธรรม ความเป็นธรรม ประธานบริษัท ธนาคาร…
การคลัง เพชรพลอย ดวงตา จักษุประสาท วาสนาฯลฯ…ฃองประเภทมีประกาย มีแสง หรือมีพลังงานเช่นเพชร พลอย ไฟฉายเป็นต้น…
 
…๑+๒ ผสมกันเป็น…นัยน์ตา เครื่องดื่มร้อน พระราชินี ดวงตา ใจร้อน ชีวิตครอบครัว สามีและภรรยา การสมรส บิดาและมารดา มิตรภาพในรอบวัน
 [วันและช.ม.]…
…ครุฑนาม สัตว์มีปีก เป็ด นก ไก่ ฯลฯ…
 
…๑+๓ ผสมกันเป็น…อวัยวะเพศหญิง เหล็กแดง เครื่องหมายยศทหาร นายทหารตำแหน่งสูง นายพล กษัตริย์ เครื่องจักรที่ใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้สำเร็จรูปทำด้วยโลหะ บุรุษเพศชาย สามี ชายผู้มีความขยันขันแข็ง ความทะเยอทะยาน
ทหาร การกระทำอย่างรุนแรง กล้าได้กล้าเสีย…
 
…๑+๔ ผสมกันเป็น…นักวิชาการ ฉลาด รอบรู้ การศึกษา การเรียน หลักการหลักเกณฑ์ ความแม่นยำ ความถูกต้อง…เป็นคนชอบการศึกษาหาความรู้ รูปงาม มีสุขภาพดี แข็งแรงและว่องไว ในวัยเด็ก กายสังขารในอาการเคลื่อนไหว ออดไฟฟ้า…สังขารที่เยาว์วัย ใจโลเล…มักเปลี่ยนแปลงเสมอ พูดจาน่าเชื่อถือ ตาหยี ประสาท ความรู้สำนึก บุรุษผู้ร่าเริงฯลฯ
 
…๑+๕ ผสมกันเป็น… ชายหนุ่มผู้รำ่รวยและโชคดี บุรุษผู้มีความสำเร็จในชีวิต โชคลาภหรือความสุขทางกาย หมอชายพระบรมโพธิสมภาร ชายร่างสมบูรณ์ กษัตริย์ผู้ทรงคุณธรรม บุรุษผู้ผดุงไว้ซึ่งคุณธรรม ครูผู้ชาย ตะเกีัยงที่มีโป๊ะบังแสง สถาบันที่สูงส่ง ร.ร.วชิราวุฒิ ฯลฯ
 
…๑+๖ ผสมกันเป็น…กษัตริย์นักรัก ชายหนุ่มผู้มีความสุข พระราชา ชีวิตที่สุนทรีย์ วันที่มีความสุขสมใจ ขนมหวานร้อน พลังแห่งเสียงเพลง ชายหนุ่มที่มีคนรักมากมาย
[คู่สมพล] สีแ่ห่งสายรุ้ง ของหวานตำรับชาววัง พลังแห่งกามารมณ์…
ความกลมเกลียวกัน วันแห่งสันติ เสน่ห์ในตัว การมีลักษณะเป็นหมือนแม่เหล็ก
มีแรงดึงดูด ร่างกายที่สวยงาม วัยรัก…
 
…๑+๗ ผสมกันเป็น…ชายแก่ ผู้เฒ่า ชายผู้มีความทุกข์ ที่ดินของบิดาหรือปู่ทวด
รถไฟ เสาไฟฟ้า สายไฟฟ้า สร้อยทองคำ…เข็มขัดทองคำ 
ที่ดินราคาแพง เส้นบะหมี่ คนขี้โรค ชายหนุ่มหน้าแก่ฯลฯ…
 
…๑+๘ ผสมกันเป็น…บุรุษผู้มีความละโมบ ชายผู้หลงผิด หนุ่มนักพนัน อันธพาล ตาบอด ตามืดมัว เงาของบุรุษ แสงสะท้อน สุราราคาแพง ฯลฯ…
 
…๑+๙ ผสมกันเป็น..กายทิพย์ บุรุษผู้มีลางสังหรณ์ หนุ่มผมยาว แสงแห่งความมหัศจรรย์ กระแสจากดวงตา วังหลวง
อารามหลวง คลื่นไฟฟ้า พลังงานที่สูงสุด ฯลฯ…
 
…๑+๐ ผสมกันเป็น…บุรุษลึกลับ วิญญาณที่สูงศักดิ์ นักวิทยาศาสตร์ โปรแกรมเม่อร์ นักคอมพิวเตอร์ ชายขวัญอ่อน…
เตาไฟ เตารีด ไฟฟ้าชำรุด โรคประสาท บุรุษนักปฏิวัติ เปลี่ยนแปลงอย่างง่ายๆ เครื่องไฟฟ้าราคาแพงฯลฯ…
 
...ถ้่าดาวมีการผสมเกินกว่า๑ ดวงความหมายก็จะเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้นสะดวกต่อการทำนาย…
๑+๔+๖ แปลว่า…ผิวงาม อ่อนนุ่ม คงแก่เรียน มีชื่อเสียงโด่งดัง ร่ำรวย รอบรู้ มีฐานะดี ศิลปะที่ละเอียดอ่อน
๑ [แสง]+๔ [เสียง]+๓ [เครื่องยนต์ เครื่องไฟฟ้า]+๘ [เงา] แปลว่า…โทรทัศน์…
๔ [กระดาษ]+๖ [สวยงาม]+๘ [ภาพ เงา] แปลว่า…รูปภาพที่สวยงาม…
๑ [ไฟ]+๔ [ความคิด สมอง]+๓ [เครื่องจักร เครื่องกล] แปลว่า…เครื่องสมองกลไฟฟ้า=คอมพิวเตอร์…
 
…ดาว ๑ ยังเป็นตัวทำลายเชื้อโรคอีกด้วย…ข้อควรจำ…ข้างขึ้นปลูกพืชผลบนดิน…ข้างแรมปลูกพืชผลในดิน…
 
…สรุปสูตรผสมดาวของดาว ๑ ยุติลงเท่านี้ก่อน..ต่อไปจะกล่าวถึงดาว ๒ เป็นลำดับต่อไปในหน้าต่อไปครับ…