ต่อประเทศชาติ คือได้สร้างทางหลวงสายต่าง ๆ ทั่วประเทศหลายสาย สร้างเขื่อน อาทิเช่น…
เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนอุบลรัตน์… นอกจากนี้ท่านยังได้ทำการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยทัดเทียม
กับนานาประเทศ และในปี พ.ศ.๒๕๐๘ ได้ส่งทหารไปร่วมรบในสงครามเวียตนามด้วย…
…แต่ต่อมาก็ถูกพลังทางการเมืองหลายฝ่าย กดดันให้ลาออกจากตำแหน่งในที่สุด หมดพลังอำนาจ ต้องหลบลี้ หนี ภัย ไปอยู่ในต่างถิ่นต่างแดน…
…ชาย เกิดวันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๔ เวลาเกิด ๑๒.๒๕ น. จังหวัดตาก…
… ราศีตุลย์ …
…โยคเกณฑ์ …
๑.ดาว พฤหัสบดีกุมลัคน์ นระราศี เป็นองเกณฑ์ …
๒.ดาวได้โยค มีมฤตยูโยคหน้า พุธโยคหลัง และยังได้ตรีโกณอีกด้วย …
๓.เป็นดวง ดอกพิกุล คือมีดาวกุมลัคนา แล้วโยคไปตามลำดับ ไม่ขาดตอน ดาวพฤหัสบดีกุมลัคน์…
ดาวโยคไปตามลำดับคือ มฤตยู จันทร์ อังคาร เสาร์ ราหู พลูโต พุธ …
วิจารณ์ …
๑.ดาวดอกพิกุลให้คุณ ในด้าน มีพรรคพวก เพื่อนฝูงมาก มีผู้นับหน้าถือตาทั่วๆไป …
๒.ดวงนี้มีบาปเคราะห์ อังคาร เสาร์ ราหู ๓ ดวง เล็งลัคนาอย่างเต็มที่ เป็นลางบ่งให้เห็นว่า ศัตรู
มุ่งร้ายมีพลังรุนแรง เมื่อพลาดท่าเสียทีก็จะต้องหักโค่นลงทันที ในกลุ่มดาวบาปเคราะห์ ๓ ดวงนั้น
มีดาวเสาร์ ปุตตะของดาว ศุกร์ตนุลัคน์รวมอยู่ด้วย หมายถึงอำนาจนั้นมาจากเด็กๆ …
๓.ดาวพฤหัสบดี อันเป็นดาวครูกุมลัคนา ในชีวิตของท่านได้เคยเป็นครูสอนวิชาแผนที่กับนักเรียนทหารอยู่หลายปี…
๔.มฤตยูเจ้าแห่งการเดินทาง โยคหน้าลัคนา ทำให้ท่านซึ่งเป็นผู้รวมอำนาจใว้เป็นเวลานาน ต้อง
เดินทางไปต่างแดน ไปประชุมหรือดูงานบ่อยๆ …
๕.ดาวอาทิตย์ลอยเหนือศรีษะกลางฟ้าขณะเกิด ท่านจึงมักจะไว้ตัว และแสดงท่าทางองอาจให้กระฉับกระเฉงอยู่เสมอ อันผิดกับอุปนิสัยส่วนลึกซึ่งชอบความสงบ ด้วยดาวศุกร์ตนุลัคน์เป็นนิจ
อยู่ในภพวินาศนะ ลักษณะเช่นนี้ บ่งถึงว่าเป็นคนสองอารมณ์ หรือสองบทบาท บทบาทของดาว
อาทิตย์นั้นจะต้องเด่น ยิ่งมีดาวเนปจูนอันเป็นดาวฝูงชนกุมอาทิตย์อยู่ด้วย ทำให้ต้องอยู่ในที่แวดล้อมของคนหมู่มาก…ต้องออกชุมชนอยู่เสมอ บทบาทของศุกร์นิจในภพวินาศนะ ส่วนลึก …
ของจิตใจนั้นเป็นคนอ่อนแอ และชอบมุมสงบเงียบๆของชีวิต จะว่าเป็นดวงที่ถูกเขาเชิดก็ใช่ที่ …
ตามลักษณะดวงชาตาบ่งว่า มีความพอใจในฐานะที่ถูกเขาเชิดด้วย หรือทำจริงๆแต่ดูคล้ายถูกเขา
เชิดอยู่เบื้องหลังอย่างใดอย่างหนึ่ง …
๖.ดาวอังคารกฎุมพะ มีเสาร์ราหู กุมอยู่เป็นข้อเสียอย่างร้ายแรง เจ้าชาตาจึงถูกอำนาจกฏหมายมาตราพิเศษที่เคยเคยเล่นงานคนอื่นๆมามาก ย้อนกลับมาเล่นงานตนเอง โดยถูกยึดทรัพย์จนหมดสิ้น …
… ต่อไปนี้เป็นบทขยายความของคำวิจารณ์ …
ดาว ๕ ที่กุมลัคน์ นระราศีได้ องค์เกณฑ์ …
องค์เกณฑ์นระ ได้แก่ ลัคนาที่มิถุน ลัคนาที่กันย์ ลัคนาที่ตุลย์ ธนู และลัคนาที่กุมภ์ …
มีโคลงกลอนองค์เกณฑ์ดังนี้ …
นระสุริยะเรื้อง รังสี
โสระชีวะโดยมี ถูกต้อง
สามองค์เทพโสภี กุมลัคน์
ดวงชาตาใดพรั่งพร้อม ยศนั้นนาพัน
…กฎขององค์เกณฑ์นระคือ…ถ้ามีดาว ๑ ดาว ๗ และดาว ๕ ทั้ง ๓ ดวงที่กล่าวมากุมลัคน์ จะได้…
ยศถาบรรดาศักดิ์ เทียบเท่ากับนาพันไร่…ถ้าเป็นในสมัยปัจจุบันก็ต้องตีความกันว่า บุคคลใดที่ได้องค์เกณฑ์นี้ จะสามารถสร้างชื่อเสียงและทรัพย์สมบัติได้ด้วยสติปัญญา และความสามารถของตนเอง …
ดาวโยคก็คือ…ดูจากลัคนามองไปข้างหน้า ๒ ราศีมีดาว ๐ อยู่เรียกว่า “ดาว มฤตยูโยคหน้า “แล้วหันไปมองข้างหลังมีดาว ๔ อยู่เรียกว่า”ดาวพุธโยคหลัง”
…เท่ากับว่า ลัคนามีดาวโยคหน้าที่ราศีธนูเรือนสหัชชะ [ญาติ พี่ีน้อง เพื่อน] และโยคหลังที่ราศีสิงห์
เรือนลาภะ [โชคลาภ ] …
โยคแปลว่า … ช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน ให้ความร่วมมือ สนับสนุน …
…ตรี[๓ ] โกณ [มุม]…ตรีโกณแปลว่า ๓ มุม ตามภาษาเลขาคณิต คือ มีดาวอยู่ทั้ง ๓ มุม…
…ดูที่ลัคนามีดาว ๕ ๙ …ดูที่ราศี ธนู [ธาตุไฟ ปลายธาตุ] มีดาว ๐ ดูที่ ราศีเมษ [ธาตุไฟ แม่ธาตุ]มีดาว ๓ ๗ ๘ …ดูที่ราศีสิงห์ [ธาตุไฟ กลางธาตุ] มีดาว ๔ อย่างนี้เรียกว่าดาวทำมุมตรีโกณ [เกื้อกูล] ซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือกัน…หรือเรียกว่า…ร่วมธาตุเดียวกัน พวกเดียว เป็นญาติกันฯลฯ
… ดาวดอกพิกุล…หมายถึง ดาวที่โยค [ช่วยเหลือ] กันรอบดวงชาตา [ราศีจักร] ดังนี้คือ …
… เริ่มจากลัคนา มีดาว ๕ ๙ โยคหลังไปที่ ดาว ๓ และดาว ๓ โยคหลังไปที่ ดาว ๒ ส่วนดาว ๒ นั้น
ก็โยคหลังไปที่ดาว ๓ …จากดาว ๓ โยคหลังดาว พลูโต ส่วนดาวพลูโตก็โยคหลังไปที่ดาว ๔ ส่วน
ดาว๔ ก็โยคหลังไปที่ดาว ๕ และเกตุ ครบรอบราศีจักร …
… ส่วนข้อ ๒…ที่ว่ามีดาวเสาร์ ปุตตะของดาว ศุกร์ตนุลัคน์รวมอยู่ด้วย หมายถึงอำนาจนั้นมาจากเด็กๆ
ดาว ๕ มีความหมายถึงครูบาอาจารย์ …ให้ดูไปที่ราศีสิงห์เรือนลาภะ [ลาภผล] โยคหลังช่วยเหลือ
อยู่…ดาว ๔ มี ๒ ตำแหน่งคือ เป็นมหาจักร [ ผู้เชี่ยวชาญ] และราชาโชค [เจราจามีศิลปะ ] …
ดาว ๔+๕ เป็นคู่แห่งสติปัญญา…จึึงทำให้เป็นครูบาอาจารย์ …ดาว ๕ เล็งไปที่ราศีเมษ …
เจอดาว ๓+๗+๘ [ ตำรวจ+ทหาร ]
…ท่านจึงได้เคยเป็นครูสอนวิชาแผนที่กับนักเรียนทหาร อยู่หลายปี …
ดูที่ดาว ๐ [เดินทาง]มีดาว ๒ เจ้าเรือนกัมมะ [งาน] โยคหน้าอยู่…แล้วดาว ๒ ก็ไปโยคหลังดาว ๓ …
เจ้าเรือนปัตนิ [ บ่อยๆ] ดาว ๓ กุมดาว ๗ เจ้าเรือนพันธุ [หน้าที่] และราหูเจ้าเรือนปุตตะ [มีการเกิดขึ้น]
…แปลได้ว่า…เจ้าชาตามีหน้าที่การงานที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่เป็นประจำ บ่อยๆ …
… อันที่จริงสามารถทำนายดวงดาวได้อีกในหลายมุมมอง ฯลฯ มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมาก
… วันนี้คิดว่าคงต้องยุติลงก่อน พบกันอีกในบทเรียน สถิติโหร ในบทความตอนต่อไปนะครับ สวัสดีครับ …
… อ.ธนเทพ ปฏิพิมพาคม …